พ่อเมืองกาฬสินธุ์นำลุย “เฟส 2 ยุทธการฟ้าแดดสงยาง” กวาดเหี้ยนยาเสพติด 18 อำเภอ

( 24 ต.ค. 61 ) ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติดจังหวัดกาฬสินธุ์ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์, พล.ต.ต.ทินณะรัตน์  เพ็ชรพันธ์ศรี   ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ

ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น  "ยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติด" ภายใต้โครงการ “Kalasin Happiness Model คนกาฬสินธุ์ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”  

โดยทำการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 54 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 23 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 10,176 เม็ด, ยาไอซ์ 36.74 กรัม, อาวุธปืน 8 กระบอก, กระสุนปืน 34 นัด, รถยนต์ 4 คัน โทรศัพท์มือถือ ทองรูปพรรณ เงินสด มูลค่าทรัพย์สินรวม 496,021 บาท

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า "ยุทธการฟ้าแดดสงยาง ระดมกวาดล้างยาเสพติด" ดำเนินการมาเป็นระยะที่ 2 แล้ว โดยผลปฏิบัติการตามแผนยุทธการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 24 ตุลาคม 2561

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2,912 คน แบ่งเป็นครอบครองเพื่อจำหน่าย 538 คน, ครอบครอง 332 คน และผู้เสพ  2,043 คน ส่วนของกลางยาบ้าจำนวน 158,296 เม็ด ซึ่งทางจังหวัดยังคงระดมออกกวาดล้างยาเสพติดทั่วทั้ง 18 อำเภอ เพื่อให้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ลดลง

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ย้ำว่า ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาสังคมที่มีความร้ายแรงระดับชาติ เนื่องจาก ปัจจุบันปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางมากขึ้นเป็นลำดับ โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดไม่ว่าจะเป็นนายทุนผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้นำเข้า และส่งออกยาเสพติด ได้นำยาเสพติดทั้งที่มีอยู่เดิมและชนิดใหม่เข้ามา เผยแพร่ในหมู่ประชาชนในแต่ละกลุ่มซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

ซึ่งผลกระทบที่ตามมา มีมากมายโดยเฉพาะต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม ซึ่งจะเห็นได้ว่าครอบครัวที่มีผู้ติดยา มักได้รับความเดือดร้อนจากผู้ติดยาในทุกด้าน นำไปสู่ความยุ่งยาก ขัดแย้ง แตกแยก และสิ้นเปลืองในการแก้ปัญหา ผู้ติดยามักก่อให้เกิดอาชญากรรมต่อเนื่อง ตั้งแต่การเข้าไปเกี่ยวข้องกับแหล่งอบายมุข การลักเล็กขโมยน้อย การประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สิน การพนันและอาชญากรรมต่างๆ

สำหรับผู้ค้าและหรือผู้เสพซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว เมื่อถูกจับกุมและดำเนินการทางกฎหมาย จะส่งผลกระทบให้สมาชิกภายในครอบครัวได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีวิต ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชนที่อยู่ภายใต้การปกครองอาจจะต้องออกจากโรงเรียน ซึ่งเป็นการทำลายอนาคตของประเทศชาติโดยตรง