เปิดใจ แม่ "น้องปอนด์" ตอนไปศาลได้กลิ่นธูป เหมือนลูกมาฟังคำตัดสินด้วย

เปิดใจ แม่ "น้องปอนด์" ตอนไปศาลได้กลิ่นธูป เหมือนลูกมาฟังคำตัดสินด้วย

เปิดใจ แม่ "น้องปอนด์" ตอนไปศาลได้กลิ่นธูป เหมือนลูกมาฟังคำตัดสินด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีคดีฆาตกรรม เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2560 กลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คน ได้บุกหอพักในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อจะไปทำร้ายคู่อริ แต่ไม่เจอ จึงได้ลงมือทำร้ายและฆ่า นายธีรพงศ์ หรือ น้องปอนด์ อายุ 24 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี

โดยเมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้มีการนัดอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

>> ศาลชั้นต้นสั่งคุกตลอดชีวิต หัวหน้าแก๊ง 14 โจ๋ไขควงแทงหัว "น้องปอนด์" คดีดังปี 60

>> ศาลให้ประกันตัว 11 แก๊งโจ๋คดีฆ่าโหด "น้องปอนด์" ยกเว้น "อาร์ท"

ล่าสุด (25 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นางอารีรัตน์ แม่ของน้องปอนด์ ได้เดินทางกลับมาถึงบ้านพัก ม.2 ต.หนองไม้แก่น อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านที่เก็บศพน้องปอนด์ไว้ในโลงเย็นห้องโถงภายในบ้าน

ซึ่งทันทีที่ทางนางอารีรัตน์ มาถึงได้นำรูปของน้องปอนด์ ซึ่งนำไปในศาลด้วย มาแขวนไว้ฝาผนัง จุดธูป แล้วเคาะโลงบอกน้องปอนด์ พร้อมกับพูดว่า “ศาลได้ตัดสินคดีให้ความชอบธรรมแก่ลูกแล้ว และขอให้ลูกรู้ว่าแม่รักลูก และขอให้เกิดมาเป็นลูกของแม่อีกทุกชาติ”  

นางอารีรัตน์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ไปรับฟังคำตัดสินของศาลชั้นต้น ทางตนและญาติก็พอใจในระดับหนึ่ง แต่ยอมรับว่า ผู้ร่วมก่อเหตุบางคนยังได้รับโทษน้อยเกินไปกับการร่วมกระทำที่ทำกับลูกชาย ที่โหดเหี้ยมเกินไป ซึ่งทางครอบครัวได้กลับมาทบทวนและสรุปกันแล้วว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลต่อ

เพราะต้องการให้ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินลงโทษกับผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ให้มากกว่า และจะดำเนินการให้ถึงที่สุดเพื่อความชอบธรรม และความเป็นธรรมให้กับลูกชายที่ก่อนหน้าถูกกล่าวหาว่าเป็นคนไม่ดี ไปก่อนเหตุจนถูกคู่อริมาเอาคืน  ตอนนี้สังคมก็ได้รับรู้แล้วผู้ก่อเหตุได้รับโทษ ลูกก็หมดมลทิน แต่ก็ให้ถึงที่สุดก่อน แล้วจะทำพิธีฌาปนกิจน้องปอนด์

แม่ของน้องปอนด์ กล่าวต่อว่า อยากจะบอกให้กับผู้ปกครองทุกคน ขออย่าช่วยเหลือหรือปกป้องลูกอย่างผิดๆ เพราะเมื่อลูกทำผิดก็ยอมรับสารภาพกับเหตุที่ก่อเพราะอย่างน้อย หนักจะได้เป็นเบา แต่ก็ไม่โทษพ่อแม่เขาซะทีเดียว เพราะพ่อแม่อาจไม่รู้ว่าลูกทำอะไร

แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วพ่อแม่ทุกฝ่ายก็จะทุกข์เหมือนกัน อีกฝ่ายทุกข์ที่สูญเสียลูก ส่วนอีกฝ่ายทุกข์ที่ลูกจะต้องติดคุกติดตะราง ลูกเขาลูกเราก็หมดอนาคตทั้งคู่  อยากจะบอกเด็กๆ ว่า ทำอะไรก็ขอให้คิดถึงหัวอกพ่อแม่บ้าง กว่าจะเลี้ยงโตมาได้ขนาดนี้ หมดไปเท่าไหร่ แม่ลำบากเท่าไหร่ และเมื่อเกิดเหตุแบบนี้ความทุกข์ก็ตกต่อครอบครัว

นางอารีรัตน์ กล่าวอีกว่า ตอนที่ไปศาล ได้กลิ่นธูปโชยมาแตะจมูกทุกคน แม้แต่ตอนไปกินอาหาร ซึ่งเป็นร้านและอาหารที่น้องปอนด์ชอบมานั่งมากินอาหาร ก็ได้กลิ่นธูปโชยมาอีก เสมือนว่า น้องปอนด์ได้มาฟังคำตัดสิน และมานั่งกินอาหารด้วยกันอีกด้วย

ทั้งนี้ นางอารีรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ถึงแม้วันนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ก็ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้กับความสูญเสีย ยังคิดว่าน้องปอนด์ยังอยู่กับแม่ เสื้อผ้าที่ตั้งอยู่ที่หน้าหีบศพ 1 อาทิตย์ จะนำไปซักและเปลี่ยนชุดใหม่มาวางให้ โทรศัพท์มือถือน้องปอนด์ ก็จะเปิดเครื่องไว้ โดยทุกคืนจะนำไปชาร์จ และตอนเช้าจะนำมาวางไว้

ส่วนอาหารการกินจะทำอาหารที่น้องปอนด์ชอบ มาวางไว้บนหีบศพ ซึ่งตนและพี่ชายและน้องชายของน้องปอนด์ จะช่วยกันทำให้ แม้กระทั่งในห้องนอนทุกอย่างยังอยู่ครบ และทำความสะอาดให้เป็นประจำ

>> ติดตามข่าวคดีฆ่าแทงไขควงใส่หัว น้องปอนด์ ที่นี่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook