ตำรวจคว้าตัวรถตู้ชนแล้วหนี ทำนักปั่นฟิลิปปินส์ดับ เตรียมเปิดแถลงข่าว

ตำรวจคว้าตัวรถตู้ชนแล้วหนี ทำนักปั่นฟิลิปปินส์ดับ เตรียมเปิดแถลงข่าว

ตำรวจคว้าตัวรถตู้ชนแล้วหนี ทำนักปั่นฟิลิปปินส์ดับ เตรียมเปิดแถลงข่าว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจแสนภูดาษ คว้าตัวรถตู้ตีนผีขับฝ่าสัญญาณไฟแดง พุ่งชนนักปั่นจักรยานชาวฟิลิปปินส์ได้แล้ว พร้อมเตรียมนำตัวแถลงข่าว

พ.ต.อ.นิพนธ์ คล้ายสิงห์ ผกก. สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีเกิดอุบัติเหตุรถตู้พุ่งชนรถจักรยานของนักปั่นชาวฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงกลางดึกก่อนรุ่งสางของวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา จนเป็นเหตุทำให้ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา

ต่อมาเพจ Audax Randonneurs Thailand ของกลุ่มนักจัดการแข่งขันปั่นจักรยานระยะไกล นำเรื่องราวของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นออกมาเผยแพร่สู่สังคมโลกโซเชียล และขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แสนภูดาษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจาก กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทราสามารถติดตามค้นหารถตู้คันก่อเหตุได้แล้ว โดยรถถูกนำไปเคลมซ่อมต่อบริษัทประกันภัยชั้นหนึ่ง และเข้าอู่ในย่านมีนบุรี กรุงเทพฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะได้นำรถตู้คันดังกล่าว กลับมาให้ พฐ.ตรวจพิสูจน์หลักฐานยังที่ สภ.แสนภูดาษ

ส่วนคนขับผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ได้ทราบเบาะแสแล้ว พบเป็นชายอายุ 29 ปี ชาว อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังไล่ติดตามจับกุมตัว ตามหมายจับของศาล จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ในพื้นที่ จ.สระแก้ว และจะมีการแถลงข่าวชี้แจงกรณีนี้ต่อไป

>> รถตู้ตีนผีฝ่าไฟแดง พุ่งชนนักปั่นฟิลิปปินส์ เสียชีวิตก่อนถึงเส้นชัย

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่า นายรัสเซลล์ เปเรซ อายุ 51 ปี นักปั่นชาวฟิลิปปินส์ ได้เดินทางมาเข้าร่วมรายการแข่งขันปั่นจักรยาน เก็บสะสมระยะทางยาว 1,000 กม. (Audax Randonneurs) เส้นทางไปกลับสุวรรณภูมิ-ตราด เมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุได้มีรถตู้ซึ่งตามคำให้การของพยานระบุว่าขับมาด้วยความเร็ว และมีการเลาะฝ่าสัญญาณไฟแดงในเลนด้านซ้ายพุ่งเข้ามาชนรถจักรยาน

โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านค้าริมทาง บริเวณจุดเกิดเหตุจับภาพเอาไว้ได้ในระยะไกล ก่อนที่จะแกะรอยไปตามเส้นทางจนพบว่ารถคันดังกล่าว แต่หลังจากก่อเหตุแล้วคนขับได้ใช้เส้นทางเลาะซ้าย ตรงทางสามแยกสัญญาณไฟบางพระมุ่งหน้าตรงเข้าไปยังเส้นทางเข้าเมืองฉะเชิงเทรา

นอกจากนี้ยังพบพฤติการณ์หลังเกิดเหตุการณ์พุ่งชนรถจักรยานแล้วด้วยว่า คนขับได้มีการชะลอดูก่อนที่จะรีบขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งการติดตามครั้งแรกหลังเริ่มแกะรอยได้ ปรากฏว่าชื่อที่อยู่ของเจ้าของรถนั้นยังเป็นชื่อเจ้าของเก่า โดยมีการขายรถตู้คันนี้มาแล้วถึง 2 ทอด ก่อนที่จะรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วว่าเป็นใคร

พ.ต.อ.นิพนธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับรถตู้คันนี้ไม่ใช่รถตู้โดยสารประจำทาง โดยเป็นรถตู้โดยสารสาธารณะรับจ้างทั่วไป แต่น่าเชื่อว่าจะเป็นรถตู้ที่ถูกนำมาใช้วิ่งรับส่งแรงงานต่างด้าว เพื่อนำไปต่อพาสปอร์ต ยังที่บริเวณด่านชายแดนอรัญประเทศ ซึ่งมักจะขับด้วยความเร็วสูง และบริษัทเจ้าของรถตู้คันนี้ยังเปิดดำเนินธุรกิจอยู่ในเขตพื้นที่ จ.สระแก้ว ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook