เตรียมเอาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับศิลปินทำเพลง “ประเทศกูมี” ระบุเข้าข่ายให้ร้ายประเทศ
รองโฆษก ปอท. เผยตรวจสอบเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” แล้ว พบเนื้อหาค่อนข้างให้ร้ายประเทศไทย ทำเสียหายหลายเรื่อง เตรียมพิจารณาเรียกสอบกลุ่มศิลปินที่อยู่ในคลิป
บก.ปอท.เตรียมเอาผิด “ประเทศกูมี” ในฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) นอกจากนี้ยังขู่ว่าคนที่ส่งต่อโพสต์ก็อาจเข้าข่ายความผิด มาตรา 14 (5) ขณะนี้มิวสิกวิดีโอเพลงดังกล่าวมีคนดูเกือบหนึ่งล้านครั้ง และมีคนไปแสดงความคิดเห็นมากมาย
จากข่าวที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้กล่าวถึงเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” ว่าไม่แน่ใจว่าอาจมีความหมิ่นเหม่ ขัดต่อคำสั่ง คสช. จึงได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ตรวจสอบเนื้อหา
>> โฆษกเผย รัฐบาลเสียใจเพลงแร็ป "ประเทศกูมี" ชี้ทำประเทศเสียหาย
>> "ศรีวราห์" สั่งสอบเพลงแร็ป "ประเทศกูมี" กังวลเนื้อหาสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย
>> ภริยา ผบ.ซีล โพสต์อัด "ประเทศกูมี" ชี้เป็นวิธีล้างสมองด้วยเพลง
>> “Rap Against Dictatorship” แก๊งฮิปฮอปกลุ่มใหม่ สาดใส่ความรู้สึกต่อสังคมกับ “ประเทศกูมี”
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (26 ต.ค.) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก.3 บก.ปอท. ในฐานะรองโฆษก บก.ปอท. เปิดเผยถึงกรณีการแพร่คลิปเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” ว่า เบื้องต้นทาง พ.ต.อ.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รรท.ผบก.ปอท ได้สั่งการให้ฝ่ายสอบสวนประชุมพิจารณาว่าเข้าข่ายข้อกฎหมายใด และให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบว่าผู้ปรากฏในคลิปเป็นใคร เพราะว่าเนื้อหาค่อนข้างให้ร้ายประเทศไทย ทำให้ประเทศเสียหายอยู่หลายเรื่อง เบื้องต้นจากการตรวจสอบ น่าจะเข้าข่ายความผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) “ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” เพราะความเสียหายที่ปรากฏในเนื้อเพลงอาจกระทบกระเทือนกับเศรษฐกิจ อาจทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ส่วนจะเข้าข้อกฎหมายอื่นใดขอให้ฝ่ายสอบสวนพิจารณา
ทั้งนี้ หากพิจารณาแล้วเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 14 (2) ในเรื่องการร้องทุกข์กล่าวโทษ ก็จะแจ้งให้บุคคลที่ได้รับความเสียเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ และจะต้องเชิญกลุ่มศิลปินที่อยู่ในคลิปเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา ส่วนกรอบระยะเวลาดำเนินการเรื่องนี้จะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยค่อนข้างมาก และผู้บังคับบัญชาสั่งการลงมา
ส่วนที่กลุ่มศิลปินหรือผู้ที่เกี่ยวข้องชี้แจงว่าเนื้อหาของเพลงเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้พาดพิงถึงบุคคลใดนั้น พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า หากมีการดำเนินคดีก็เป็นสิทธิของเขาที่จะให้การ เขารู้สึกอย่างไร หรือข้อเท็จจริงในส่วนของเขาเป็นอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานว่าผิดหรือไม่
ส่วนภาพที่ปรากฏในมิวสิควิดีโอบางส่วนคล้ายกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในอดีตที่มีการจำลองหุ่นแขวนอยู่บนต้นไม้ และมีกลุ่มคนคอยเชียร์ให้ชายในคลิปนำเก้าอี้ฟาดหุ่นเป็นการเข้าข่ายเรื่องการก่อความรุนแรงหรือไม่นั้น พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า ยังไม่สามารถระบุได้ แต่จากภาพรวมอาจเข้าข่ายความผิดใน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ส่งต่อโพสต์ก็อาจเข้าข่ายความผิด มาตรา 14 (5) ซึ่งจะมีโทษอัตราเดียวกันกับผู้โพสต์ คือ จำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ได้เช่นกัน โดยหลังการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างเข้มงวดก็มีจำนวนผู้กระทำผิดที่ลดลง
ขณะนี้มิวสิกวิดีโอเพลงดังกล่าวซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม มียอดวิวเกือบหนึ่งล้านครั้ง และมีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นที่มีคำบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่นออกมา ยิ่งเป็นข่าวออกมายิ่งมีคนเข้าไปดู แสดงความคิดเห็นต่อเพลงมากมายและติด #ประเทศกูมี จนติดเทรนด์ในทวิตเตอร์