สื่อนอกแห่ยกย่อง "เสี่ยวิชัย" ชายผู้ครองใจชาวเลสเตอร์ พาทีมสู่ฝันที่เป็นไปไม่ได้
การจากไปของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี สร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนบอลและคนทั่วโลก เหตุนี้สื่อในหลายประเทศ โดยเฉพาะสื่ออังกฤษ จึงได้เกาะติดรายงานความเคลื่อนไหวเหตุการณ์นี้ ไม่ใช่แค่นั้นยังพาย้อนไปชมผลงานของผู้นำสโมสรรายนี้ ที่เคยเป็นส่วนสำคัญในพลิกสถานการณ์ที่ย่ำแย่ จนพาทีมขึ้นสู่จุดสูงสุดของลีกอังกฤษด้วย
>> "ความดีที่สร้างไว้ ไม่มีใครลืม" คนบันเทิง โพสต์ข้อความอาลัย "เจ้าสัววิชัย"
>> ปิดตำนาน "วิชัย ศรีวัฒนประภา" เจ้าของ "คิง เพาเวอร์-สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้" เสียชีวิตจากเหตุ ฮ.ตก
AFP
มากกว่าแค่เจ้าของสโมสร
ช่วงเช้าวันนี้ (29 ต.ค.) เดอะ การ์เดียน ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอและบทความผ่านเว็บไซต์ เล่าถึงความสำเร็จดังกล่าว โดยระบุว่า นายวิชัยเป็นคนที่ช่วยให้ทีมเลสเตอร์ไปสู่ฝันที่เป็นไปไม่ได้ หลังจากซื้อสโมสรนี้ด้วยเงิน 39 ล้านปอนด์ (1,659 ล้านบาท) เมื่อ 8 ปีก่อน
สื่อรายนี้ รายงานว่า นายวิชัยทุ่มเทอย่างหนักให้กับสโมสร ผ่านทั้งตัวเงินที่ลงทุนไว้ และนั่งชมการแข่งขันด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่นั้น ความสัมพันธ์ของนายวิชัย ต่อทีมงานสโมสรและนักฟุตบอลก็ยังเป็นมากกว่าเจ้าของทีม โดยจะเห็นว่า นายเจมี่ ริชาร์ด วาร์ดี้ นักฟุตบอลในทีม ยังเคยเชิญเจ้าของสโมสรรายนี้ไปร่วมงานแต่งงานของตัวเอง
AFP
ครองใจชาวเมือง
ด้านสำนักข่าว สกายนิวส์ ของอังกฤษ ก็พาดหัวบทความในเว็บไซต์ว่า นายวิชัยเป็นฮีโร่ของชาวเมืองเลสเตอร์ และเล่าว่า การที่เจ้าของสโมสรเลสเตอร์รายนี้กลายเป็นที่รักของคนในพื้นที่ เพราะทำประโยชน์ให้กับเมืองมากมาย
หนึ่งในนั้นคือการบริจาคเงิน 2 ล้านปอนด์ (85 ล้านบาท) ให้กับโครงการสร้างโรงพยาบาลเด็กแห่งใหม่ในเมือง การบริจาคเงิน 1 ล้านปอนด์ (42.5 ล้านบาท) ให้กับคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยของเมือง และมอบเงิน 23,000 ปอนด์ (978,794 บาท) แก่แฟนบอลคนหนึ่ง ที่ลูกชายป่วยเป็นโรคจากความผิดปกติของยีนส์ เอ็มอีซีพี2 และกำลังหาเงินเพื่อวิจัยโรคนี้
ส่วนเทเลกราฟ สื่ออังกฤษอีกราย ก็ได้เขียนบทความเกี่ยวกับผลงานของนายวิชัย ที่พาให้ทีมเลสเตอร์ขึ้นสู่แชมป์ลีกอังกฤษสำเร็จเมื่อปี 2559 และกล่าวถึงการทำประโยชน์ใหักับเมืองคล้ายกันกับสกายนิวส์ และทิ้งท้ายข้อความที่ระบุว่า
"ทุกคนจะจดจำเขาไว้ในใจในฐานะประธานสโมสรที่ได้รับการเคารพมากที่สุดคนหนึ่งของพรีเมียร์ลีก" เทเลกราฟ ระบุ