เดี๋ยวสั่งปิดเลย! แชร์กระหน่ำผู้ใหญ่บ้านควงปืนลูกซองบุกขู่ร้านขายของชำ เจ้าตัวชี้แจงแล้ว (คลิป)

สืบเนื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อนายบ่ ฮู่ ได้โพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพได้ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า กูผู้ใหญ่ ใครกล้าหือ..หมู่ 10 บ.น้ำภู ต.เมือง จ.เลย เมาแล้วกร่าง จนมีการแชร์ต่อๆ ไปเป็นจำนวนมาก

โดยในคลิปเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านน้ำภู ได้ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างไม่ทราบรุ่น มาจอดหน้าร้านครัวคิดถึงน้ำภู ซึ่งเป็นร้านขายของชำ เลขที่ 67 บ้านน้ำภู หมู่ 10 ต.เมือง อ.เมือง จ.เลย ของนายสหพร นิยะโมสถ อายุ 64 ปี (เจ้าของร้าน)

จากนั้นเดินถือปืนลูกซองยาวเดินเข้าไปในร้าน มีนายสหพรเจ้าของร้านนั่งอยู่ภายในร้านพร้อมกับลูกชายวัย 2 ขวบ ที่นอนอยู่ข้างตัว และได้มีการพูดคุยกันนานกว่า 10 นาที จากนั้นก็เดินถือปืนลูกซองยาวขึ้นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขี่ออกไป

จนมาวันนี้เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายสหพร เจ้าของร้านของชำ เล่าว่า ตนเองเปิดร้านขายของชำ ที่หน้าร้านจะมีซุ้มไม้ไผ่ 2 ซุ้ม เพื่อให้ชาวบ้าน และเด็กที่มาซื้อของที่ร้านมานั่งเล่น Wifi ฟรี เป็นการดึงดูดลูกค้า

ก่อนจะเกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 26 ต.ค. 61 เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ที่ผ่านมา มีเด็กมานั่งเล่น Wifi จนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันตามประสาเด็กน้อย จากนั้นมีผู้ปกครองเด็กรายหนึ่งไปฟ้องผู้ใหญ่บ้าน จนผู้ใหญ่บ้านขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างมาที่ร้าน พร้อมปืนลูกซองยาว และที่เอวคาดกระสุนปืนลูกซองจำนวนหนึ่ง

เข้ามาบอกว่าที่ร้านเปิดให้เด็กมามั่วสุม เดี๋ยวจะสั่งปิดร้านเลย คุยสักพักก็ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างออกไป ตนเองก็ตกใจนึกว่าใครจะเข้ามาปล้น จนมาทราบภายหลังว่าเป็นนายบุญโฮม อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 บ้านน้ำภู ต.เมือง อ.เมือง จ.เลย พึ่งมาเป็นผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ได้เพียง 5 เดือนเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยังนายบุญโฮม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทราบว่าบ่ายวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเลย ได้มีการเชิญตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยกันที่ สภ.เมืองเลย

ล่าสุด ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองเลย จ.เลย นายบรรพต ยาฟอง นายอำเภอเมือง ได้เรียกนายสหพร นิยะโมสถ อายุ 64 ปี เจ้าของร้านขายของชำ และนายบุญโฮม อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 บ้านน้ำภู ต.เมือง คู่กรณีที่มีปัญหามาพูดคุยสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น จนมีการแชร์คลิปวิดีโอออกไปว่าผู้ใหญ่บ้านทำเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น

นายบรรพต ยาฟอง นายอำเภอเมือง เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานว่าผู้ใหญ่ถืออาวุธปืนลูกซองยาว เมาไปข่มขู่ เจ้าของร้านขายของชำ จนเป็นข่าวออกไปนั้น ในวันนี้จึงเรียกทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยกันและสอบถาม ต่อหน้าฝ่ายปกครอง และตำรวจ

ในเบื้องต้นเป็นการเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน โดยทางผู้ใหญ่บ้านได้รับการร้องเรียนว่าร้านขายของชำมีกลุ่มวัยรุ่นไปมั่วสุม จึงไปตรวจสอบ โดยมีผู้ร้องเรียนไปด้วย เมื่อไปถึงจึงมีการเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของร้าน จากนั้นก็กลับออกมา จนกลายเป็นข่าว ส่วนทางเจ้าของร้านชำ ได้ขอร้องให้ช่วยดูแลอย่าให้มีเด็กมามั่วสุมและสร้างความรำคาญเดือดร้อนชาวบ้าน โดยทั้งสองฝ่ายทำความเข้าใจกันและขอโทษซึ้งกัน และจับมือกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ

นายบุญโฮม ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า หลังมีการเจรจาพูดคุยและทำการเข้าใจก็พอใจ ซึ่งสื่อที่นำไปเสนอข่าวนั้นคลาดเคลื่อนนำเสนอข่าวออกไปด้านเดียวโดยที่ไม่มาสอบถามตนเอง ซึ่งในวันนี้ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าที่ร้านมีการมั่วสุมและทะเลาะวิวาทของวัยรุ่น ในฐานะผู้ใหญ่บ้านจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ถ้ามาไปก็โดนร้องเรียน

จึงเรียกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปด้วย แต่ช่วยผู้ใหญ่บ้านไม่อยู่ และวันนั้นก็ไม่ได้ดื่มเหล้า จึงไปกับผู้ร้องเรียน โดยผู้ร้องเรียนรออยู่ข้างนอก จึงได้ถืออาวุธปืนลูกซองยาวและกระสุนไปจริง เพื่อป้องกันตัวและอาจจะมีเหตุ จึงได้พกติดตัวไป และมีการพูดคุยกับเจ้าของร้าน ขอความร่วมมืออย่าให้เด็กมามั่วสุม จากนั้นก็เดินออกมาและขี่จักรยานยนต์พ่วงกลับ จนกลายเป็นข่าว

ส่วนร้านดังกล่าว เปิดเป็นโต๊ะสนุ๊ก 2 โต๊ะ และเวทีร้องเพลง 1 ห้อง และขายของชำเช่นเหล้า บุหรี่ วัยรุ่นเคยมีการทะเลาะวิวาทกัน ก่อนที่ตนเองจะมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน จนมาเป็นผู้ใหญ่บ้านครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้รับแจ้งก็ต้องไปตรวจดู และไม่มีการดื่มเหล้า หรือข่มขู่ร้านค้าแต่อย่างไร

ส่วนสื่อที่นำเสนอไปนั้นก็ไม่รู้ข้อเท็จจริง ทำไมไม่มาสอบถามก่อนที่จะนำเสนอข่าวออกไป ตนเองได้รับความเสียหาย ส่วนจะฟ้องกลับร้านค้าก็คงไม่เพราะเป็นลูกบ้าน และมีการพูดคุยเจรจาเข้าใจกันแล้ว ส่วนนายสหพร นิยะโมสถ เจ้าของร้านขายของชำ หลังพูดคุยและขอโทษซึ่งกันและกัน ได้เดินออกทางกลับทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์