ญาติตัวแสบ! แอบอ้างชื่อทำเสียประวัติ สาวระยองร้องเจ้าหน้าที่แก้ไขล้างประวัติ

จากกรณีเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แถลงผลการจับกุม 2 สามี-ภรรยา ทราบชื่อ นายกิตติชัย หรือเอ็ม อายุ 23 ปี และ น.ส.ทัศนีย์ หรือกุ้ง อายุ 34 ปี หลังก่อคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร โดยจากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.ทัศนีย์ พบว่าเคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เมื่อปี 2556 อีกด้วยนั้น

ล่าสุดวันที่ 30 ต.ค. 61 น.ส.ทัศนีย์ สุทธิกุล อายุ 34 ปี พร้อมครอบครัวเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม โดยระบุว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้ง 2 คดีดังกล่าวไม่ใช่ตนเอง แต่เป็น น.ส.จริยา ญาติผู้พี่ที่นำชื่อไปแอบอ้าง จนมีการนำชื่อตนเองไปเสนอตามสื่อต่างๆ และมีประวัติติดตัวทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง และการทำธุรกรรมต่างๆ ด้วย

โดย น.ส.ทัศนีย์ กล่าวว่าพักอยู่ที่บ้านในจังหวัดระยองกับครอบครัว และไม่เคยมีประวัติก่อเหตุใดๆ มาก่อน กระทั่งมีหนังสือจากสำนักงานคุมประพฤติที่ให้ไปรายงานตัวเพื่อบำบัดจากคดีเสพสารเสพติดในปี 2556 จึงทราบว่าถูกนำชื่อไปแอบอ้าง อีกทั้งยังมีชื่อเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์อีกด้วย จึงทำให้เสียชื่ออย่างมากเพราะมีการนำไปเสนอตามสื่อต่างๆ มากมาย แถมยังได้รับผลกระทบจากการทำธุรกรรมทางการเงินอีกด้วย จึงมาร้องขอความเป็นธรรมให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อเร่งดำเนินการแก้ไขและล้างประวัติทั้งหมดเพื่อให้เกิดความถูกต้อง

ขณะที่ พ.ต.อ.อภิชัย กล่าวว่าคดีดังกล่าว น.ส.จริยา ผู้ก่อเหตุแอบอ้างขณะถูกจับกุมว่าไม่มีเอกสารประจำตัวและแอบอ้างชื่อ น.ส.ทัศนีย์ ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบที่สำนักทะเบียนก็พบว่ามีหน้าละม้ายคล้ายกันอย่างมากเพราะเป็นญาติกันจึงส่งดำเนินคดีตามขั้นตอน

อย่างไรก็ตามเมื่อ น.ส.ทัศนีย์ ตัวจริงมาชี้แจงและนำเอกสารมายืนยันก็ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขให้ เพราะเกิดความเสียหายต่อ น.ส.ทัศนีย์ ขณะที่ น.ส.จริยา นั้นก็ถือว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทอีก 1 กระทง แต่ น.ส.ทัศนีย์ ไม่ติดใจเอาความแค่ขอให้ล้างประวัติและแก้ไขข้อมูลเท่านั้น ซึ่งก็ได้ดำเนินการและชี้แจงพร้อมประสานสื่อแขนงต่างๆ เพื่อช่วยแก้ไขในกรณีดังกล่าวด้วย