ปล้นกันเองใน สน.! ตร.ฉก ตร. ตั้งแก๊งขโมยรถ
ตร.เป็นโจรเสียเองตั้งแก๊งลักจยย.ตำรวจโรงพักเดียวกัน เผยส.ต.ท.สน.ปทุมวันตั้งแก๊งขโมยรถเพื่อนข้าราชการตำรวจ หลังรถจยย.ในโรงพักหายติดๆ กันหลายคัน จนท.จึงประสานขอตรวจกล้องวงจรปิด เจอโจรจะจะเป็น"ส.ต.ท."โรงพักเดียวกัน จึงขออนุมัติออกหมายจับ แฉมีด.ต.ลูกพี่บงการอยู่เบื้องหลัง ผู้บังคับบัญชาพยายามประสานให้เข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังหลบหน้า ด้านผกก.ปทุมวันยอมรับเป็นเรื่องจริง เป็นความผิดเฉพาะบุคคลไม่ใช่เป็นแก๊ง
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากแหล่งข่าวในสน.ปทุมวันว่า ขณะนี้ภายในสน.ปทุมวัน มีแก๊งลักรถออกอาละวาด ทำให้รถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนำไปจอดไว้ในโรงพักและบริเวณลานจอดรถหน้าห้องพักสูญหายไปหลายคันแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 5-11 พ.ค.52 เพิ่งจะมีการแจ้งความรถจักรยานยนต์ของข้าราชการตำรวจสูญหายไปจำนวน 3 คัน จนกระทั่งผู้เสียหายได้รวมตัวกันไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ปทุมวัน ให้ช่วยลงพื้นที่ออกหาข่าวและช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนพบเบาะเเสเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นอาร์เอ็กซ์แซด สีแดง ทะเบียนตราโล่ เลขที่ 53148 ซึ่งเป็นรถของ ด.ต.ธีรทัศน์ กาญจนาอนันต์ ผบ.หมู่ (ป.)สน. ปทุมวัน แจ้งหายไว้ ถูกนำไปจอดบริเวณห้องควบคุมไฟฟ้า ใต้ถุนอาคารสถาบันวิจัยโลหะและวัตถุวิทยาปิโตรเลียมและเคมี ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำของกลาง ไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพัก ก่อนจะได้เบาะเเสชิ้นต่อมาคือรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถของ ด.ต.สุรเดช สกลไทย ผบ.หมู่ (จร.) สน.ปทุมวัน แจ้งหายไว้ ถูกนำไปจอดภายในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งในซอยจุฬาฯ 4 แขวงสวนหลวง เขตปทุมวัน กทม.
เมื่อเดินทางไปตรวจสอบที่ร้านดังกล่าว พบว่าเป็นร้านที่ข้าราชการตำรวจสน.ปทุมวัน จะนำรถจักรยานยนต์ของทางราชการมาซ่อมเป็นประจำ จึงควบคุมตัวเจ้าของร้าน (ขอสงวนชื่อ) ไปสอบสวนเพื่อหาที่มาของรถจักรยานยนต์ของกลาง และกันตัวไว้เป็นพยานในคดี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เบาะแสของรถอีกคันหนึ่งคือ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอร์เบลด สีดำ ทะเบียน ยษจ 462 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถของจ.ส.ต.ทัญอมร หนูนารถ ผบ.หมู่ (ป.) สน.ปทุมวัน แจ้งหายไว้ ถูกนำไปจอดบริเวณใกล้ที่พักของพนักงานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซอยจุฬาฯ 12 แขวงสวนหลวง เขตปทุมวัน กทม. จึงเดินทางไปนำรถของกลางมาเก็บรักษาไว้ที่สน.ปทุมวัน
จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คนร้ายแก๊งนี้น่าจะเป็นผู้ที่รู้ความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายทุกรายเป็นอย่างดี จึงประสานขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ตามสถานที่ที่รถถูกนำไปจอด พบว่ากล้องภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถจับภาพส.ต.ท.สว่าง สาจันทร์ ผบ.หมู่ (ป.) สน.ปทุมวัน เป็นผู้ขับขี่รถไปจอดไว้ โดยมีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ สำนักงานเขตปทุมวัน เป็นผู้ขับรถตามไปรับ ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ขณะนี้ยังไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการทำเอกสารไปขออนุญาต
หลังจากที่ฝ่ายสืบสวนมั่นใจว่าคนร้ายคือใคร จึงนำหลักฐานทั้งหมดเสนอให้พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เป็นผู้พิจารณา ต่อมา ส.ต.ท.สว่าง สาจันทร์ ผบ.หมู่ (ป.) สน.ปทุมวัน ที่ไปปรากฏตัวอยู่ในภาพกล้องวงจรปิดขณะนำรถของกลางไปจอดไว้ภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตกเป็นผู้ต้องหาตามคดีอาญาเลขที่ 563/2552 ลงวันที่ 14 พ.ค.52 ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในสถานที่ราชการ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 5 พ.ค.52 เวลา 19.00 น. ถึง วันที่ 11 พ.ค.52 เวลา 10.00 น. โดยมีร.ต.ท.สิทธิเดช หาญจริง ร้อยเวร สน.ปทุมวัน เป็นเจ้าของคดี
จากนั้นพ.ต.อ.ไพศาล สั่งการให้ส.ต.ท.สว่างเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทันทีในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ แต่ปรากฏว่าทางผู้ต้องหากลับหายหน้าไป และไม่สามารถติดต่อได้อีก ซึ่งตลอดระยะเวลาดำเนินการ ทางผู้บังคับบัญชากำชับให้ตำรวจทุกนายในโรงพักช่วยกันตามหาตัวส.ต.ท.สว่าง และพยายามปิดบังเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ให้บุคคลภาย นอกรับรู้ ขณะเดียวกันได้มีตำรวจยศ "ดาบตำรวจ" อีกนายหนึ่งอยู่เบื้องหลัง
รายงานข่าวแจ้งว่า แผนการของแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในโรงพักแก๊งนี้ จะปฏิบัติงานตามใบสั่งของ"ดาบตำรวจ" โดยให้ส.ต.ท.สว่างเป็นผู้ชี้เป้าและให้คนร้ายอีกราว 3-4 คน ขับรถกระบะมายกเอารถจักรยานยนต์ไป จากนั้นก็จะนำรถจอดพักไว้ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อรอนำเข้าไปดัดแปลงสภาพในร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ซอยจุฬาฯ 4
ด้านพ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ตำรวจประพฤติตัวไม่ถูกต้อง แต่ไม่ได้เป็นแก๊ง เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการให้ส.ต.ท.สว่างเข้ามอบตัว