สาวโพสต์ขอความเป็นธรรม น้องโดนเพื่อนลวงให้สก๊อย "รุมตบ" ซ้ำตำรวจอ้างลงโทษไม่ได้

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ หมูน้อย ตัวอ้วน โพสต์เล่าเหตุการณ์สุดสลดใจ เกี่ยวกับน้องสาวของตน ที่โดนหญิงวัยรุ่นอีก 4 คน รุมทำร้ายอย่างรุนแรง จนได้รับบาดเจ็บ แถมตำรวจยังไม่รับแจ้งความ ทำให้ตนต้องมาโพสต์ขอความเป็นธรรมผ่านโลกโซเชียล

ผู้โพสต์เล่าว่าเรื่่องนี้เริ่มจากการที่ตนพาน้องสาวกลับมาเยี่ยมบ้าน จ.บึงกาฬ และช่วงเที่ยงของวันเกิดเหตุ เพื่อนสนิทของน้องสาวได้ชวนน้องสาวไปทานส้มตำ เพื่อนคนดังกล่าว บอกกับน้องสาวว่าจะพารู้จักกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ริมอ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่ง โดยที่ไม่ทราบเลยว่า มีผู้หญิงวัยรุ่น 4 คนมารอทำร้าย ด้วยการทุบตีอย่างรุนแรง และใช้เท้าเตะศีรษะ

"อยู่ๆ ก็มีกลุ่มเด็กผู้หญิงอายุ 14-15 ปี 4 คนขี่จักยานยนต์มาและได้บอกกับน้องสาวเราว่า 'ลูกพี่กูสั้งมาไม่จัดไม่ได้หรอก' จากนั้นก็รุมทุบตีทำร้ายร่างกายโดยที่น้องเราไม่มีทางสู้ได้เลย" ผู้โพสต์ เล่า

นอกจากนี้ ผู้โพสต์ยังระบุว่า น้องของตนต้องหนีลงไปในน้ำ ก่อนที่จะมีคนตามจับกดศีรษะในน้ำ เพื่อไม่ให้หายใจได้สะดวก ทำให้น้องสาวต้องดำน้ำหนี แต่หลังจากพ้นมาได้ ก็ยังโดนตามมาทำร้ายเป็นครั้งที่สอง

หลังจากครอบครัวทราบเหตุ จึงได้พาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรโซ่ภิสัย จ.บึงกาฬ ทำให้เจ้าหน้าที่เรียกตัวผู้ลงมือมาสอบสวน แต่ได้แจ้งกับฝ่ายตนว่า เอาผิดกับผู้ลงมือได้ แต่ไม่ต้องรับโทษเพราะอายุยังไม่ถึง 18 กันสักคน ทั้งยังแนะนำให้ลงบันทึกประจำวันแทน จุดนี้เองที่สร้างความไม่พอใจให้ตน เพราะคิดว่าน้องสาวต้องเจ็บตัว โดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องรับผิดอะไรเลย อย่างนั้นหรือ 

"ตำรวจได้ติดตามตัวทุกคนมาได้ แต่ตำรวจแจ้งกับทางเราว่า เด็กอายุไม่ถึง 18 สามารถเอาผิดได้ แต่เด็กไม่ต้องรับโทษ และไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายเคลียร์กันเลย แยกห้องสอบสวนไม่ให้คุยกันเลย และให้แม่และน้องเราไปลงบันทึกประจำวันไว้แค่นั้น โดยที่น้องสาวเราเจ็บตัวไปฟรีๆ" ผู้โพสต์ ระบุ

ผู้โพสต์ระบุอีกว่า น้องสาวของตัวเองบาดเจ็บหลายจุด ตั้งแต่เส้นเลือดในสมองอักเสบ ปวดบวม ส่วนสภาพจิตใจก็ย่ำแย่ แต่กล้าอยู่คนเดียว จึงอยากถามชาวเน็ตว่าตนเอาผิดอะไรกับผู้ที่ลงมือทำร้ายน้องสาวได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม น้องสาวของผู้โพสต์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อโทรทัศน์บางช่องว่า ต้นเหตุของเรื่องนี้เกิดจากการที่ตนคบกับชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟนเก่าของผู้หญิงที่ไหว้วานให้วัยรุ่นหญิงกลุ่มนี้มารุมตบ แต่ตนไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรกัน เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีสัญญาณให้ทราบว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ และตนก็ไปเรียนต่อที่จังหวัดอื่นแล้ว