สาวท้องรอดตาย ตร.เมาแล้วขับ เปิดใจขอบคุณพยาบาลที่สละชีวิตให้ลูกเกิด
สาวท้องที่รอดตายจากอุบัติเหตุตำรวจเมาแล้วขับ พุ่งชนรถพยาบาลคว่ำ เปิดใจอยากขอบคุณนางพยาบาลที่เสียชีวิต เหมือนสละชีพเพียงให้เด็กน้อยได้ลืมตาดูโลก ครวญคู่กรณีไม่เคยมารับผิดชอบเลย
ความคืบหน้ากรณีที่ ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ขับรถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เสียหลักข้ามเลนพุ่งชนรถพยาบาล รพ.ประโคนชัย บนถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ต.บ้านไทร อ.ประโคนชัย จนส่งผลให้ น.ส.สุดารัตน์ อายุ 25 ปี พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนเขาคอกที่นั่งดูแลหญิงตั้งครรภ์ภายในรถเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน เมื่อกลางดึกวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดพนักงานสอบสวนที่ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด แต่งตั้งขึ้นใหม่เพื่อทำคดีดังกล่าว ได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และอยู่ในชั้นอัยการ
ขณะที่ ด.ญ.ชุติกาญจน์ อายุ 14 ปี สาวท้องที่เป็นผู้ป่วยถูกส่งตัวไปคลอดในวันเกิดเหตุ และรอดชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้มีคนต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน ก็อยากจะขอบคุณพยายามสุดารัตน์ เหมือนได้สละชีวิตเพื่อช่วยเหลือตัวเองให้คลอดลูกได้อย่างปลอดภัย ซึ่งตนก็ได้คลอดลูกสาว หลังจากถูกส่งต่อไปที่ รพ.บุรีรัมย์ จึงรู้สึกเหมือนพี่พยาบาลมาเกิดเป็นลูกของตน
ทั้งนี้ ตนรับปากจะดูแลลูกสาวเป็นอย่างดีให้สมกับที่พี่เขาสละชีวิตเพื่อให้อีกชีวิตได้ลืมตาดูโลก ส่วนที่ทางพ่อของพยาบาล ก็อยากให้ตั้งชื่อลูกสาวว่า “สุดารัตน์” ซึ่งเป็นชื่อของพี่พยาบาล ส่วนตัวก็อยากจะตั้งเหมือนกัน แต่ก็ต้องปรึกษาทางครอบครัวอีกครั้งก่อน เพราะขณะนี้ย่าได้ตั้งชื่อให้ลูกสาวไปแล้วว่า “บุญญาพร”
>> ตำรวจซิ่ง ชนรถ รพ.ส่งหญิงท้องแก่ พยาบาลสาวเคราะห์ร้ายเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่หลังเกิดเหตุทางตำรวจคู่กรณีก็ไม่เคยมาเยี่ยมหรือรับผิดชอบอะไรเลย ซึ่งสามีของตนเองก็ต้องขาหักเดินไม่ได้จากอุบัติเหตุที่เกิดเหตุ ทำให้แม่ที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ต้องขาดงานมาคอยดูแลตนเองสามีและหลาน แม่ต้องขาดรายได้ ส่วนป้าที่ไปด้วยในวันเกิดเหตุก็บาดเจ็บ ต้องหยิบยืมเงินเพื่อนบ้านไปรักษาตัว จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ และคู่กรณีมาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
นางชุติมา แม่ของน้องชุติกาญจน์ เปิดเผยว่า อยากขอบคุณทางครอบครัวและน้องสุดารัตน์ พยาบาลที่สละชีวิตเพื่อให้ลูกสาวและหลานของตนเองปลอดภัย หากเป็นไปได้ตนก็พยายามทำงานส่งเสียหลานให้เรียนจบและเป็นพยาบาลเหมือนกับน้องสุดารัตน์ให้ได้ เพื่อจะได้ไปช่วยเหลือคนอื่น ส่วนเรื่องตั้งชื่อ “สุดารัตน์” เหมือนน้องพยาบาลตามที่พ่อของน้องอยากให้ตั้งนั้น ก็คงต้องปรึกษาทางย่า และครอบครัวอีกครั้ง
ทั้งนี้ก็อยากฝากถึงคู่กรณีด้วยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากคนๆ เดียว แต่ทำลายชีวิตของอีกหลายคน ทั้งน้องพยาบาลก็ต้องเสียชีวิต อีกหลายคนบาดเจ็บไม่มีเงินรักษาตัว ลูกเขยของตนเองก็ต้องขาหักเดินไม่ได้ ตนก็ต้องหยุดงานมาดูแลทั้งลูกสาว ลูกเขยและหลานที่เพิ่งคลอด ตอนนี้ครอบครัวลำบากมาก อยากให้คู่กรณีมาแสดงความรับผิดชอบด้วย เพราะตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่เคยเห็นมาเลยสักครั้งเดียว