ศึกชิงเมือง #ประเทศกูมี

ศึกชิงเมือง #ประเทศกูมี

ศึกชิงเมือง #ประเทศกูมี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น่าสนใจกับความเคลื่อนไหวขยับจัดทัพ ช่วงชิงพื้นที่ทางการเมืองในห้วงปลายทางที่รัฐบาล คสช. เตรียมจะนัดพรรคการเมืองพูดคุยเรื่องการปลดล็อก กลางหรือปลายเดือน พ.ย. เช่นเดียวกับ กกต. ที่กำลังแบ่งเขต ก็เตรียมนัดบรรดาพรรคการเมืองคุย (22 พ.ย.)

น่าสนใจในรูปลักษณ์วิธีการ “เข้าถึง” ผู้คนประชาชนที่จะมี “บทบาท” ในฐานะ  “ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” อันกำหนดชะตาประเทศชาติในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า (24 ก.พ. 62) ของบรรดาฝ่ายการเมือง ที่มีส่วนผสมทั้ง “แบบเก่าดั้งเดิม” คือการลงพื้นที่หาเสียง หรือความพยายามในการชิงพื้นที่ในการเป็น ข่าว ผ่านหน้าสื่อ และ “วิธีการใหม่” นั่นคือการใช้สื่อใหม่ยุคดิจิทัล ผ่านโลกโซเชียลที่เข้าถึงประชาชนโดยตรง

น่าสนใจกับภาพการจัดทัพเปลี่ยนแนวรบโฆษกรัฐบาลจาก “เสธ.ไก่อู” เป็น “พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์” ที่ประเดิมแถลงผลประชุม ครม.สัญจรเชียงรายที่มีมติตั้ง “พุทธิพงษ์” เป็นโฆษกรัฐบาล (30 ต.ค.) แถมยังเป็นรองเลขาธิการนายกฯ และได้รับความไว้ใจให้คุมเพจ Facebook, Twitter, Instagram ของนายกฯ บิ๊กตู่ทั้งหมด

ที่กล่าวมาข้างต้น มีความน่าสนใจว่าทีม “นายกฯ ลุงตู่” ที่ปรับลุคเปลี่ยนเป็น “ตู่ดิจิทัล” ที่พร้อมจะพูดคุย เซลฟี และไลฟ์สดกับผู้คน ดูจะเข้าใจและสัมผัสได้ในอิทธิฤทธิ์ของโซเชียล ว่าจะมีผลทางการเมืองยิ่ง

ที่ไม่แปลกว่าอีกฟากข้างหรือคู่แข่งในสนามศึกเลือกตั้ง อย่างพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นๆ ในเฉดสีใกล้เคียงกันอย่าง “พรรคอนาคตใหม่” ก็ย่อมเข้าใจในตรรกะความเป็นไปนี้ และดูเหมือนว่าจะใช้พลานุภาพของสื่อโซเชียลในทางการเมืองเจาะทะลวงเข้าหา “กลุ่มเป้าหมาย” ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก่อนหน้าฝ่ายผู้มีอำนาจด้วยซ้ำ โดยดูได้จากการใช้เพจของ “ทักษิณ” “ยิ่งลักษณ์” “โอ๊ค พานทองแท้” และ “ตัวละครหลักๆ” ที่ขยับมาโดยตลอด ไม่นับรวมพรรคอนาคตใหม่ของ “ธนาธร” ที่ใช้สื่อโซเชียลในเชิงรุกเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่จนสามารถหายใจรดต้นคอพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ได้

ขณะที่หันมาดูที่พรรคประชาธิปัตย์ แม้จะดูเก่าขลัง แต่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคก็ใช้โซเชียลมีเดียเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่นับแสนคนมาตลอดเช่นกัน และในจังหวะเปลี่ยนผ่านเลือกหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์เองก็ใช้เครื่องมือโซเชียลและเทคโนโลยีแอปพลิเคชันในการเข้าถึงสมาชิกจำนวนมาก เพื่อทำไพรมารีโหวตเป็นตัวอย่างให้กับพรรคอื่นๆ

ทั้งหมดทั้งมวลจึงน่าสนใจว่าสภาพการณ์ศึกชิงเมือง ประเทศกูมี จะเป็นไปอย่างที่ ไพศาล พืชมงคล” ที่ปรึกษารองนายกฯ ที่เคยเตือนว่า อานุภาพของ Social Media ไม่ธรรมดา โดยดูได้จากแค่สัปดาห์เดียว เพลงแร็ปประเทศกูมี ก็มีผู้เข้าถึงกว่า 9 ล้านวิว และถึงปัจจุบันทะลุไปเกือบ 30 ล้านวิว ซึ่งอาจแสดงให้เห็นว่าอภินิหารโซเชียลมีเดีย มีพลานุภาพยิ่งกว่าอภินิหารทางกฎหมาย! ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว

และนี่คือ “สัญญาณ” ที่จะบอกว่าผลการเลือกตั้งครั้งหน้า ใครคุมหัวใจโซเชียลมีเดียได้ก็จะได้รับชัยชนะแบบพลิกล็อกถล่มทลาย!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook