งามไส้! ชาวบ้านร้อง "ผู้ใหญ่บ้าน" ส่อทุจริต ให้ใช้ที่ดินวัดขึ้นทะเบียนรับเงินช่วยเหลือ
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพาชาวบ้านร้องผู้ใหญ่บ้านส่อทุจริต เซ็นต์หนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้นายอนุชิต ซึ่งเป็นบุตรชายได้นำเอกสารสิทธิ์โฉนด/นส. 4 จ เลขที่เอกสารสิทธิ์ 12408 เนื้อที่ 7 ไร่ 45 ตารางวา
ซึ่งเป็นที่ดินของวัดบ้านวังม่วง ตำบลหนองสิม อำเภอเขมราฐจังหวัดอุบลราชธานี นำไปแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2559 ที่ทางการกรมส่งเสริมการเกษตรได้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1200 บาท เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้านนายอำเภอเขมราฐรับหนังสือข้อเรียกร้องและจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี มีชาวบ้านจาก บ้านวังม่วง หมู่ที่ 4 ต. หนองสิม อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ประมาณ 60 คน
จากการนำโดยนายสาคร เหล่าบุญมา อายุ 48 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวังม่วง เดินทางมาร้องเรียนและขอความเป็นธรรมกับนายกฤตกร ถาศักดิ์ นายอำเภอเขมราฐ
พร้อมชูป้ายข้อความให้ผู้ใหญ่บ้านลาออกเพื่อแสดงสปิริตของตัวเอง, ผู้ใดกระทำผิดต้องได้รับโทษ, คนโกงเงินแผ่นดินต้องถูกลงโทษ, วัดเสียหายเพราะมีผู้นำไม่ดี, พวกเราไม่เอาคนขี้โกง
นายสาคร เหล่าบุญมา กล่าวว่าชาวบ้านวังม่วง หมู่ที่ 4 ต. หนองสิม ได้ตรวจสอบเอกสารพบว่านายอนุชิต เป็นบุตรของนายมานิช ผู้ใหญ่บ้านบ้านวังม่วง ได้กระทำการทุจริตและแจ้งหลักฐานข้อความอันเป็นเท็จต่อทางราชการ ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย
โดยนายอนุชิต ได้นำเอกสารสิทธิ์ นส.4 จ. เลขที่เอกสารสิทธิ์ 12408 เนื้อที่ 7 ไร่ 45 ตารางวา ซึ่งที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินของวัดบ้านวังม่วง ต.หนองสิม อ.เขมราฐ นำไปแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2559 ตามที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,200บาทจำนวนไม่เกิน 10 ไร่ต่อคน
โดยมีนายมานิช ผู้ใหญ่บ้านวังม่วง หมู่ที่ 4 ได้ลงนามในหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้แก่นายอนุชิต ซึ่งเป็นบุตรของตนเองเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2559 เพื่อขอรับการช่วยเหลือ
ซึ่งทำให้วัดได้รับความเสื่อมเสียและเสียหายเป็นอย่างยิ่ง เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบร่วมกันเบียดบัง จัดทำเอกสารขึ้นเพื่อให้ได้เงินมาเป็นประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว
นอกจากนี้ยังมีความประพฤติตนไม่เหมาะสมในการบริหารงาน ทำงานไม่โปร่งใส ส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ไม่มีความเหมาะสมกับการเป็นผู้นำของหมู่บ้าน
นายสาคร เหล่าบุญมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2560 ก็มีความพยายามที่จะใช้หลักฐานเดิม ซึ่งเป็นที่ดินของวัดแปลงเดิมเพื่อขอเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,200 บาทอีกแต่ชาวบ้านได้ร่วมกันตรวจสอบพบก่อน
จากพฤติกรรมดังกล่าว จึงขอร้องเรียนและขอความเป็นธรรมต่อทางอำเภอเขมราฐได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดทั้งทางอาญาและวินัย
โดยยื่นข้อเรียกร้อง 1.ให้ทางอำเภอตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 2.ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด 3.ให้สอบสวนเอาผิดวินัยกับผู้ใหญ่บ้านที่เซ็นหนังสือรับรองให้บุตรชายนำที่วัดไปแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2559 และ 4.ให้ผู้ใหญ่บ้านแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกจากตำแหน่ง
ต่อมานายกฤตกร ถาศักดิ์นายอำเภอเขมราฐ ได้ออกมาพบชาวบ้านพร้อมรับหนังสือข้อเรียกร้องจากชาวบ้านและรับว่าจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามที่ระบุ
ซึ่งหากผลการสอบสวนข้อเท็จจริงพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ชาวบ้านต่างพอใจจึงแยกย้ายกันเดินทางกลับในช่วงสายของวันเดียวกัน
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ