ตำรวจสุราษฎร์ฯ สนธิกำลังตัดตอนเครือข่ายยานรก-พบเงินสดหมุนเวียนกว่า 400 ล้าน
( 6 พ.ย. 61 ) กำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นการสนธิกำลัง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 และเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวม 12 ชุดปฏิบัติการ 375 นาย บุกตรวจค้น จับกุม เป้าหมายเครือข่ายยาเสพติด อย่างน้อย 23 เป้าหมาย ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใต้ยุทธการ “พิทักษ์เมืองคนดี” ขุดรากถอนโคน ตัดโค่นต้นตอเครือข่ายยาเสพติด
จากการตรวจค้นจุดหลักๆ ได้จับกุม และอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยจุดแรกได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขหลังหนึ่งในซอยปากน้ำ 4 ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมือง สุราษฎร์ธานี เบื้องต้น ไม่พบผู้ต้องหาตามหมายจับ พบเพียงญาติ ตำรวจจึงได้เชิญตัวไปสอบสวน พร้อมทั้งอายัดทรัพย์สิน หลายรายการ อาทิ รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน โฉนดที่ดิน พร้อมด้วยบัญชีปล่อยเงินกู้ รวมถึงยังได้อายัด บ้านพร้อมที่ดิน 70 ตารางวา ในซอยกาญจนวิถี 20 อีก 1 หลัง มูลค่ารวมหลายสิบล้านบาท
จากนั้น ได้เข้าตรวจสอบที่ โรงแรมลับแลการ์เด้นอิน พื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามหมายจับ นายประจักรชัย หรือ “โจ๊ก” ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ปรากฎว่า นายโจ๊ก ไหวตัวทัน ได้หลบหนีไปก่อน แต่ตำรวจ สามารถจับกุม นายปฐมพร อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นลูกน้องของนายโจ๊ก พร้อมของกลาง อาวุธปืน M16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน ปืนลูกซอง ปืนสั้นไทยประดิษฐ์ และปืนสั้น 9 มม. รวม 4 กระบอก และ อุปกรณ์การเสพยาเสพติด
ซึ่งนายปฐมพร ให้การซัดทอดว่า อาวุธปืนทั้งหมดเป็นของนายโจ๊กเอามาฝากไว้ ก่อนล่าสุดได้หลบหนีไปเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. เมื่อวานนี้ ( 5 พ.ย. 61 ) พร้อมด้วยยาเสพติด ประมาณ 8 พันเม็ด ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการจำหน่าย ประมาณรอบละ 2 หมื่นเม็ด
นอกจากนี้ ตำรวจยังได้ควบคุมตัว นายเอกชัย อายุ 32 ปี เจ้าของโรงแรมลับแลการ์เด้นอินน์ ในฐานะผู้ให้ที่พักพิงและสมรู้ร่วมคิด ได้ให้นายปฐมพร มาพักในโรงแรมนานกว่า 6 เดือน เพื่อตรวจสอบว่า เป็นเครือข่ายเดียวกันหรือไม่
และจุดที่ 3 ได้เข้าตรวจสอบ ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่ที่ 6 ตำบลบางมะเดื่อ อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติด นายเสรี (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่กำลังหลบหนีอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเครือข่ายของนายเสรี ไว้ได้ พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยอาวุธปืน และเครื่องกระสุน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. ยังได้อายัดสมุดบัญชีธนาคาร ไว้จำนวน 16 เล่ม และเมื่อตรวจสอบพบว่า มีเงินหมุนเวียน รวมกัน ไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้ควบตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนเพิ่มเติม และเร่งติดตามจับกุมตัวนายเสรี พร้อมด้วยเครือข่ายรายอื่นๆ มาดำเนินคดีต่อไป
โดย พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการกวาดล้างยาเสพติด มุ่งเน้นเป้าหมาย เครือข่ายยาเสพติดรายย่อยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นการขยายผลการจากการจับกุม ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ และ คดีที่มีการจับกุมได้ก่อนหน้านี้
โดยตำรวจได้สืบสวนและขอหมายศาลไว้แล้ว รวมถึงยังได้นำมาตรการยึดทรัพย์ เพื่อขุดรากถอนโคนขบวนการค้ายาเสพติดทั้งวงจร
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ