ทนแรงกดดันไม่ไหว หนุ่มมอบตัวทั้งน้ำตา ต้นเหตุทำคนถูก 18 ล้อทับตาย

หนุ่มอยุธยาเดินขึ้นโรงพัก เข้ามอบตัวทั้งน้ำตา หลังเป็นต้นเหตุทำจักรยานยนต์คว่ำ เหยื่อโดนรถบรรทุก 18 ล้อทับตาย แอบหลบหนีไปครึ่งเดือน กระทั่งทนแรงกดดันไม่ไหวอีกต่อไป

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพจากคลิปวีดีโออุบัติเหตุจากกล้องหน้ารถยนต์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์บนถนนทางหลวงหมายเลข 9 บางปะอิน-บางบัวทอง มุ่งหน้า อ.บางบัวทอง ช่วงผ่าน ต.โพแตง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะที่สภาพการจราจรสามารถเคลื่อนตัวได้ช้าๆ ปรากฏว่ามีชายใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีเขียว นุ่งกางเกงลายพรางทหาร ใส่หมวกกันน็อกสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ไม่ทราบทะเบียน มาในช่วงขวาสุดของถนน ก่อนจะเปลี่ยนเลนเข้าช่องซ้ายอย่างกะทันหัน

โดยระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์อีกคันขับผ่านมาพอดี เป็นเหตุทำให้จักรยานยนต์ทั้ง 2 คันเกิดเฉี่ยวชนล้มคว่ำ เป็นจังหวะเดียวกับที่รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ แล่นมาพอดี ทำให้ชายเสื้อสีเขียวเบี่ยงตัวหลบออกทันอย่างฉิวเฉียด แต่ นายประสิทธิ์ อายุ 25 ปี ชายใส่เสื้อสีขาวที่ขี่จักรยานยนต์อีกคัน ถูกรถบรรทุกพ่วงทับช่วงกลางลำตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตลงในที่สุด

หลังเกิดเหตุชายใส่เสื้อสีเขียวได้เร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่หยุดจอดให้ความช่วยเหลือหรือดูเหตุการณ์ ท่ามกลางความตกใจของประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว

ภายหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างใหญ่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้สืบสวนติดตามและรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง กระทั่งสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอนุมัติออกหมายจับ นายรุ่งโรจน์ หรือ แน็ค อายุ 25 ปี ชายที่สวมใส่เสื้อสีเขียวตามที่ปรากฏในคลิปหลักฐาน ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชน มีผู้ถึงแก่ความตาย ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6 พ.ย.) ที่ สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พ่อของพานายรุ่งโรจน์ ได้พาลูกชายที่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.ช้างใหญ่ พร้อมกับยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

นายรุ่งโรจน์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนเกิดเหตุรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ทำอะไรไม่ถูก และกลัวความผิดจึงเร่งเครื่องหลบหนีไป แต่พอหลังเกิดเหตุทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสืบสวนติดตามตัวอยู่ ทำให้ต้องหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในเรือและพายเรือไปตามแม่น้ำเจ้าพระยา หาหลับนอนตามชายป่าริมน้ำ กระทั่งทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว จึงย้อนกลับมาบ้านและให้พ่อพาเข้ามอบตัว

ขณะที่ นางธารินี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ที่มีลูกเล็กด้วย 2 คน เมื่อทราบว่าผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแล้ว จึงได้เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหาด้วยตาตัวเอง พร้อมกับกล่าวว่า จริงๆ แล้วเราก็คนบ้านเดียวกัน ไม่น่าจะหลบหนีไปเลย จากนี้ก็คงต้องชดใช้สิ่งที่ทำลงไปตามกฎหมาย พร้อมทั้งและขอบคุณตำรวจ สภ.ช้างใหญ่ ที่สืบสวนคดีนี้กระทั่งเจอตัวผู้กระทำความผิดได้ ถือว่าให้ความยุติธรรมกับสามีที่เสียชีวิตแล้ว