MEA EV Application แอปเดียวจบครบทุกเรื่องสำหรับคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า

MEA EV Application แอปเดียวจบครบทุกเรื่องสำหรับคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า

MEA EV Application แอปเดียวจบครบทุกเรื่องสำหรับคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าเทรนด์ “รถยนต์ไฟฟ้า” กำลังกลายเป็นกระแสหลักของโลก หลายประเทศต่างตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญ กระทั่งมีการออกกฎหมายเกื้อหนุนรถยนต์ไฟฟ้าให้กลายเป็นพาหนะหลักของประเทศ อาทิ จีนที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการร่างนโยบายห้ามไม่ให้มีการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทุกประเภท อินเดียก็ตั้งเป้าหมายจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนที่รถทุกประเภทที่ใช้น้ำมันให้ได้ทั้งประเทศภายในปี 2030 อังกฤษเริ่มมีนโยบายสั่งห้ามการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไป เพื่อแก้ปัญหามลพิษ รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพราะล่าสุดกระทรวงการคลังได้ประกาศราชกิจจานุเบกษาเกี่ยวกับรถยนต์คือรถยนต์ไฟฟ้า EV เต็มรูปแบบได้รับการลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงเหลือ 2% (ซึ่งเป็นอัตราการเสียภาษีสรรพสามิตที่ต่ำที่สุด ในบรรดารถยนต์ทุกประเภท)

เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนสามารถใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มรูปแบบและสะดวกสบายที่สุด การไฟฟ้านครหลวงจึงได้เปิดตัว MEA EV แอปพลิเคชันที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องมี เพราะครบทุกเรื่องที่ควรรู้ ทั้งเรื่องของจุดชาร์จรถที่สามารถค้นหาได้จาก Google Map แบบเรียลไทม์ รวมถึงดูว่าแต่ละสถานีใช้หัวชาร์จแบบใด

 

MEA EV แอปพลิเคชัน ที่การไฟฟ้านครหลวงพัฒนาขึ้นเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้ได้ดีทั้งใน iOS และ Android ทำหน้าที่ค้นหาสถานีชาร์จรถ ของการไฟฟ้านครหลวง (MEA), บริษัท EA Anywhere (EA) และทุกค่ายในประเทศไทยที่เชื่อมโยงกับข้อมูลของสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ที่ได้ลงทะเบียนไว้ พร้อมแสดงเส้นทางไปยังสถานีชาร์จด้วยแผนที่ GIS ร่วมกับการนำทางของ Google Application รวมถึงสามารถจองสถานีชาร์จได้ นอกจากนี้ยังสามารถสั่ง เริ่ม-หยุด ชาร์จไฟฟ้าได้อีกด้วย

นอกจากเรื่องแอปพลิเคชัน การไฟฟ้านครหลวงยังได้พัฒนาระบบจัดการเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าให้เป็นโครงข่ายเพื่อการควบคุมและตรวจสอบสถานะของเครื่องอัดประจุไฟฟ้าให้สามารถรองรับธุรกิจต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น และเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้สอดรับกับนโยบาย Thailand 4.0          

ทั้งหมดนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของการไฟฟ้านครหลวงในการเป็นผู้นำส่งเสริมธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทั้งประเภทปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) และประเภทแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) ทั่วประเทศตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้รวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคัน ภายในปี พ.ศ. 2579

อ้างอิงจาก
https://money.cnn.com/2017/09/11/autos/countries-banning-diesel-gas-cars/index.html
http://www.bltbangkok.com/News/

(Advertorial) 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook