คดีนี้ท่าจะไม่ธรรมดา ตร.แจ้งข้อหาฉ้อโกง 2 สาวตัวการ ดราม่าข้าวหมื่นกล่อง
ผู้การฯ แจ้งข้อหาฉ้อโกงให้กับ 2 สาว คนทำสัญญาและคนชักชวนเหยื่อ คดีจ้างทำข้าวกล่องหมื่นที่ แต่ปฏิเสธรับของ พบเส้นทางการเงินผิดปกติ ขณะที่ลูกสาวหนึ่งในเหยื่อ บุกถึงโรงพักอยากดูหน้า คนทำพ่อช็อกตาย
เมื่อคืนวานนี้ (7 พ.ย.) พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยความคืบหน้าในการดำเนินคดีข้าวหมื่นกล่องว่า ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงต่อผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน คือ นางธนิตา ผู้ชักชวน และ น.ส.กัญจ์หทัย ผู้ทำสัญญา โดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วนได้เร่งทำงานกัน โดยได้สอบปากคำผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งลงพื้นที่โรงงานที่ผู้ทำสัญญากล่าวอ้างว่าทำข้าวกล่องส่ง ก็พบว่าไม่มีการทำสัมปทานดังกล่าว และได้ออกหมายเรียกเชิญผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ
รวมทั้งเข้าตรวจค้นที่บ้านของผู้ถูกกล่าวหา ยังพบเส้นทางการโอนเงินต่างๆ มูลค่ากว่า 100,000 บาท อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกกล่าวหายังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าผู้เสียหายผิดสัญญา ซึ่งเป็นคดีทางแพ่ง และไม่ยอมบอกว่านำข้าวไปส่งที่ไหน บอกว่าจะให้การในชั้นศาล ซึ่งตามพฤติการณ์ การสั่งทำข้าวกล่อง 10,000 กล่อง โดยไม่มีที่มาที่ไป ก็ถือว่าผิดสังเกต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานให้ครอบคลุมและรวดเร็วที่สุด เพื่อให้เรื่องนี้กระจ่างโดยเร็ว ไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก
ส่วนประวัติคดีอื่นๆ นั้น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ในทางข้อมูล นางธนิตา มีประวัติครอบครองยาเสพติด แต่มีการสู้คดีจนยกฟ้องแล้ว ก็จะดำเนินการตรวจสอบ ขยายผลเพิ่มเติม เนื่องจากเคยมีคดีฉ้อโกงในแถบนี้หลายคดี แต่สามารถเจรจายอมความและจบคดีไป จึงอยากให้ผู้เสียหายที่เคยถูกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 รายฉ้อโกง ก็ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ สภ.พญาแมน
>> สาวสองแควโผล่อ้าง เคยตกเป็นเหยื่อ "ข้าวกล่อง" ไหวตัวทันยังสูญเป็นแสน
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำ นางธนิตา และ น.ส.กัญจ์หทัย อยู่นั้น ปรากฏว่ามี น.ส.นภัสวรรณ อายุ 26 ปี ได้เดินทางมาที่ สภ.พญาแมน พร้อมกับเปิดเผยว่า พอทราบข่าวว่า นางธนิตา และ น.ส.กัญจ์หทัย มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ จึงมาดักรอเจอ หากมีโอกาสได้พูดคุยก็อยากจะถามว่า ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ หรือ และยังไม่หยุดพฤติกรรมหลอกลวงชาวบ้านอีกหรือ
น.ส.นภัสวรรณ กล่าวอีกว่า ตลอดปีที่ผ่านมาพ่อของตนคือ นายอัครเดช ที่ได้ทำสัญญาทำข้าวกล่องส่งให้ น.ส.กัญจ์หทัย เช่นเดียวกัน โดยมีระยะเวลาสัญญา 9 ปี ทำข้าวกล่องส่งวันละ 2 มื้อ มื้อละ 10,000 กล่อง รวม 20,000 กล่อง เสียค่าทำสัญญาสัมปทานกว่า 700,000 บาท และซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการทำอาหารจาก น.ส.กัญจ์หทัย อีกกว่า 2 ล้านบาท รวมเป็น 3 ล้านบาท
แต่เมื่อทำข้าวกล่องไปส่ง ก็ไม่มีการรับข้าวกล่องไปตั้งแต่ทำครั้งแรก โดยอ้างว่าข้าวแฉะไป ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้พ่อที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ เกิดอาการเครียด กระทั่งช็อกเสียชีวิต เนื่องจากพ่อตั้งใจและทุ่มเทกับงานนี้มาก โดยเลิกทำธุรกิจขายส่งสินค้าอุปโภคบริโภคมาทำงานนี้โดยเฉพาะ
>> แม่ค้าช้ำใจ โดนหลอกสั่งอาหารหมื่นชุด แต่สุดท้ายคนสั่งหายไม่จ่ายเงิน
ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากปรึกษากับทนายความแล้วได้รับคำแนะนำว่า สัญญาที่ทำตนเสียเปรียบทุกอย่าง เป็นคดีแพ่ง จะต้องเสียค่าทนาย เสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาล และไม่รู้ว่าจะได้ค่าชดเชยหรือไม่ จึงทำใจว่าฟาดเคราะห์ไป ทั้งนี้ ดีใจที่มีคนออกมาแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งตนพร้อมเป็นพยานให้เต็มที่
ทั้งนี้ หลังจากสอบปากคำ นางธนิตา แล้ว กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้นำตัว นางธนิตา เข้าตรวจค้นที่บ้านพัก ซึ่งเบื้องต้นตรวจพบสัญญาว่าจ้างต่างๆ ก่อนที่จะนำตัวกลับมาสอบปากคำต่อที่ สภ.พญาแมน โดยแยกห้องสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา
>> สาวจ้างทำข้าวกล่องนับหมื่น โร่แจงแม่ค้าผิดสัญญา ทำช้าต้องถูกปรับนับแสน