ด็อกเตอร์หนุ่มโพสต์แฉ! โดนอาจารย์ ม.ดัง กลั่นแกล้งหลุดชิงคณบดี ซ้ำโดนป้ายสีจนว่างงาน
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ระบายเรื่องราวน่าตกใจในวงการการศึกษาที่เกิดขึ้นกับตน หลังสมัครเป็นคณบดีวิทยาลัยด้านดนตรี ของมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศแห่งหนึ่ง โดยระบุว่า โดนกลั่นแกล้งด้วยการปล่อยข่าวใส่ร้ายตนผ่านวารสารของวิทยาลัยดังกล่าว เพื่อให้ตนไม่ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย
"การสมัครเป็นคณบดีของวิทยาลัยดังกล่าว ผมได้ทำทุกอย่างตามกระบวนการปกติ แต่แล้วในเวลาต่อมาปรากฏว่า มีการปล่อยใบปลิวและโปสเตอร์ขนาดใหญ่กล่าวหาผมในวันสัมภาษณ์งาน และหลังจากนั้นยังตีพิมพ์บทความลงในนิตยสาร ฉบับเดือนกันยายน 2560 โดยใช้ชื่อหัวข้อว่า 'เนื้อร้ายในการสรรหาคณบดี'"
อ้างโดนใส่ร้าย ใช้เส้นสายเข้าสู่ตำแหน่ง
นักเปียโนรายนี้ระบุต่อไปว่า ตนโดนใส่ร้ายด้วย 3 เรื่องหลักๆ ตั้งแต่โดนกล่าวหาว่าสมัครหลังวันหมดเขต ได้รับข้อมูลลับของมหาวิทยาลัยทำให้ได้เปรียบผู้สมัครคนอื่น ไปจนถึงใช้เส้นสายในการเข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งตนปฏิเสธทุกข้อว่าไม่เป็นความจริง และได้ให้เหตุผลประกอบในแต่ละข้อ
1. ผมสมัครเข้ามาหลังหมดเขตไปแล้ว ซึ่งไม่จริง
2. บอกว่าผมไม่ควรได้รับข้อมูลลับของมหาวิทยาลัยเพราะผมเป็นคนนอก กลัวว่าจะได้เปรียบผู้สมัครรายอื่น ตรงนี้ผมขอชี้แจงว่า ข้อมูลพื้นฐานทางการเงิน รายงานประจำปีของหน่วยงาน เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะได้อยู่แล้ว ซึ่งผู้ที่เคยผ่านการสมัครงานด้านบริหารก็น่าจะรู้อยู่ว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการสัมภาษณ์งานแค่ไหน
วารสารของมหาวิทยาลัยก็บอกเองว่าผมเป็นผู้สมัครเพียงแค่รายเดียว โดยระบุในหน้า 11 ว่า
'วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2560 ได้ทราบข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า มีผู้สมัครเพื่อเสนอตัวเป็นคณบดีวิทยาลัย 1 คน'
ถ้าหากผมได้ข้อมูลที่ว่ามาจริง จะทำให้ผมได้เปรียบหรือเสียเปรียบคนอื่นอย่างไรครับ???
แต่ผมต้องย้ำนะครับว่า ผมไม่เคยได้ข้อมูลอะไรเลย นอกจากข่าวการเปิดรับสมัครคณบดีคนใหม่ ผมเข้าไปสัมภาษณ์งานโดยถูกปกปิดข้อมูลพื้นฐานและไม่ได้รับแม้กระทั่งโอกาสในการเตรียมตัวอย่างชอบธรรม
3. ผมมีความสัมพันธ์กับคณะกรรมการในสภามหาวิทยาลัยหรือรักษาการแทนอธิการบดีนั้น ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน ผมเพิ่งกลับจากอเมริกาได้ไม่นาน ผมจะมีเส้นสายได้อย่างไร ผมเพิ่งจะได้คุยกับทุกท่านเป็นครั้งแรกก็ตอนวันสัมภาษณ์"
ผู้คนหนีหน้า นักเรียนเปียโนหมดศรัทธา
ผู้โพสต์ ระบุว่า หลังจากวารสารและโปสเตอร์ ที่ใส่ร้ายตนเผยแพร่ออกไป ผู้คนที่เคยทาบทามให้ตนไปเล่นคอนเสิร์ตก็ไม่ได้ส่งข้อมูลมาใดๆ มาให้อีก ส่วนนักเรียนบางคนที่รู้ข่าวก็ไม่มาเรียน เหลือแต่คนที่ไม่ทราบข่าว บางช่วงก็ไม่มีงานเข้ามาเลยด้วยซ้ำ
"หลังจากบทความนี้เผยแพร่ออกไปต่อในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย ฝ่ายที่กล่าวหาผมทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็นำเรื่องนี้ไปฟ้องร้องเอาผิดคณะผู้บริหารต่อศาล ทั้งยังมีการเผยแพร่ลงสื่อหลายสำนัก ทำให้ชื่อเสียงที่ผมสั่งสมมาอย่างยาวนานพังทลายลง โดยไม่เปิดโอกาสให้ผม ที่เป็นคนได้รับผลกระทบโดยตรงได้ชี้แจงเลย
จากเดิมที่มีคนจ้างผมไปเล่นคอนเสิร์ตต่างๆ ก็หายเงียบไป งานประจำอื่นๆ ก็โดนยกเลิก ขนาดนักเรียนเปียโนที่ผมสอน หลายคนพอทราบข่าวนี้ ก็ถอนตัวเช่นกัน"
ช้ำต่อ! หลังรู้เลือกพรรคพวกเสียบตำแหน่งคณบดี
หลังจากเกิดเรื่อง ตนก็ต้องรู้สึกเสียใจกว่าเดิม เพราะมีการแต่งตั้งคณบดีคนใหม่ แถมเปิดเผยลงสื่ออย่างชัดเจนว่า คณบดีคนนี้ได้รับการทาบทามให้มารับตำแหน่งนานถึง 7 ปีแล้ว แต่ตนที่สมัครตามขั้นตอน กลับเป็นฝ่ายที่นอกจากเสียเวลาแล้วยังโดนกลั่นแกล้งให้เสียชื่อเสียงอีก จึงเกิดคำถามว่า กระบวนการต่างๆ ของมหาวิทยาลัยมีความโปร่งใสหรือไม่
ผู้โพสต์ยังทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงตัดพ้อว่า "หมดแล้วสำหรับความไว้ใจที่เคยมีให้กับกลุ่มคนบางคน ในเมื่อพวกท่านไม่เกรงใจผม ก็คงไม่มีเหตุผลให้ผมต้องเกรงใจพวกท่านเช่นกัน ถ้าจะขอโทษตอนนี้คงสายไปแล้วครับ"
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ