ตำรวจภาค 3 รวบแล้ว! แก๊งกร่างติดอาวุธครบมือลอบตัดไม้พะยูงวัด

( 8 พ.ย. 61 )  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 3  สนธิกำลังกับตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์  ทหาร  ฝ่ายปกครอง  ตชด.  ป่าไม้  และอีกหลายภาคส่วน  ทำการจับกุมแก๊งไอ้โม่งอาวุธครบมือที่ตระเวนลักลอบตัดไม้พะยูงตามวัดหลายแห่งในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ได้แล้ว  

พร้อมกันนี้ยังได้ขยายผลทลายโกดังแห่งหนึ่งใน ต.โคกมะขาม อ.ประโคนชัย ซึ่งเป็นจุดรวบรวมรับซื้อไม้พะยูง ก่อนลำเลียงส่งขายประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยเบื้องต้นสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 5 คน ส่วนที่เหลือไหวตัวหลบหนีไปได้ ซึ่งคาดว่า น่าจะมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 20 คน   

ทั้งนี้ยังได้ทำการตรวจยึดของกลางอีกหลายรายการ อาทิ เลื่อยไฟฟ้า เลื่อยยนต์ โซ่เลื่อยยนต์  เครื่องปั่นไฟ  เชือก  อาวุธปืน  เครื่องกระสุนปืน  และไม้พะยูงที่แปรรูปแล้วจำนวนหลายท่อน ซึ่งยึดได้จากจุดต่างๆ ที่ผู้ต้องหานำไปซุกซ่อนไว้

ซึ่งแก๊งดังกล่าวมีพฤติการณ์สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า พกอาวุธปืนครบมือ  ขับขี่รถยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  ไปตระเวนตัดไม้พะยูงตามวัดต่างๆ ช่วงประมาณ 02.00 – 04.00 น.  

โดยจะแบ่งหน้าที่กันทั้งถืออาวุธยืนคุมเชิง ดูลาดเลา  ลงมือเลื่อยโค่นต้นพะยูง  ก่อนตัดเป็นท่อนๆ และลำเลียงขึ้นรถ โดยไม่สนใจพระสงฆ์ หรือชาวบ้าน ที่เห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด ซึ่งพฤติการณ์ก่อเหตุของแก๊งนี้ทำแบบอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และบาปกรรมเลย

จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมยังให้การปฏิเสธ  อ้างว่า ไม่ได้เป็นแก๊งที่บุกเข้าไปตัดไม้พะยูงตามวัด แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเพราะข้อมูลหลักฐานค่อนข้างชัดเจน เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหา “มีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”  ส่วนข้อหาอื่นก็จะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งเพิ่มเติมต่อไป

พ.ต.อ.วีรพล เจริญศิริ  รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์  ได้กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบของกลางที่ตรวจยึดได้และสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเองว่า หลังเกิดเหตุแก๊งคนร้ายตระเวนตัดไม้พะยูงตามวัดหลายแห่งในเขตพื้นที่จังหวัดแบบอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย  ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกท้องที่ ออกสืบสวนหาข้อมูลเบาะแสของคนร้ายอย่างต่อเนื่อง  

จนทราบข้อมูลที่แน่ชัดจึงได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิด และไม้พะยูงที่ซุกซ่อนไว้ภายในบ้านและตามจุดต่างๆ  

ทั้งได้ขยายผลจับเจ้าของโกดังแห่งหนึ่งที่ใช้เป็นแหล่งรวบรวมรับซื้อไม้พะยูงด้วย ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ไม้พะยูงดังกล่าวจะส่งขายให้นายทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีเจ้าหน้าที่ก็จะขยายผลติดตามจับกุมให้ครบทั้งหมด

ทั้งนี้ เชื่อว่า น่าจะมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังขบวนการดังกล่าวด้วย ซึ่งจะได้แต่งตั้งชุดสอบสวนจากภูธรจังหวัด  เข้ามาทำคดีดังกล่าวเอง  เพื่อตัดปัญหาไม่ให้ท้องที่เกิดความลำบากใจในการทำคดี  ซึ่งขณะนี้จะได้เร่งสืบสวนหาข้อมูลเพื่อขยายผลผู้อยู่เบื้องหลังหรือจ้างวาน