ผอ.โต้ไล่นักเรียนออกเพราะหมั้นกัน แจ้งจับเพจดังโพสต์ทำเสียชื่อเสียง

เพจเฟซบุ๊กโพสต์ผู้อำนวยการโรงเรียนบริหารงานจนทำให้ร้านค้าหยุดขาย เด็กนักเรียนไม่มีข้าวกิน และไล่เด็กออกเพราะมีภาพหมั้นกัน ด้านผู้ถูกพาดพิงแจ้งความกลับทำให้เสียชื่อเสียง

กรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย. เพจเฟซบุ๊กชื่อดังได้โพสต์ภาพนักเรียนต่อแถวกันซื้ออาหารกลางวัน พร้อมระบุข้อความว่า รร.ธัญรัตน์ วิกฤตหนักเด็กไม่มีอาหารกลางวันกินต้องต่อแถวซื้อมาม่า น้ำเองก็ร้อนไม่ทัน โดยระบุมีผู้ร้องเรียนว่าลูกชายโทรมาบอกว่าร้านข้าวปิดหมดเหลือเพียงร้านเดียวซึ่งขายหมดแล้ว และตั้งข้อสงสัยการบริหารของผู้อำนวยการที่มีการหักเปอร์เซ็นต์จนทำให้ร้านค้าหยุดขายเกือบหมดและส่งผลกระทบกับเด็ก

นอกจากนี้ยังระบุเนื้อหา เด็กนักเรียนหมั้นกันแต่กลับถูกผู้อำนวยการเรียกไปคุยและไล่ออก เมื่อเด็กถามถ้าออกแล้วหนูจะไปเรียนที่ไหน รองผู้อำนวยการอีกคนไล่ให้เด็กไปเรียน กศน.

>> ลือหึ่ง! นักเรียนจัดพิธีหมั้น ผอ.โรงเรียนสั่งไล่ออก บอกให้ไปเรียน กศน.

ล่าสุด (9 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายนฤนาท ผ่องศรีนวล ผู้อำนวยการโรงเรียนธัญรัตน์ ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณฑิตไทย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี ให้ดำเนินคดีกับเพจออนไลน์ที่ได้เผยแพร่ข้อมูลที่ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงตนเอง

นายนฤนาท กล่าวว่า ขอชี้แจงเรื่องอาหารไม่พอขายว่า เนื่องจากเด็กบางส่วนไปแข่งขันกีฬาและไปร่วมกิจกรรมโอเพ่นเฮ้าส์ที่มหาวิทยาลัยต่างๆ ทำให้ร้านค้าหลายร้านหยุดตาม บางร้านที่ยังขายจึงไม่เพียงพอเพราะนักเรียนมีมาก ซึ่งตนได้เรียกประชุมเพื่อให้ขายอาหารได้อย่างเรียบร้อยแล้ว

ส่วนเรื่องการเรียกเก็บเงินจากร้านค้าเดิมทุกร้านจะเสียให้โรงเรียนเทอมละ 7,500 บาท และรายวันอีกวันละ 150 บาท แต่เห็นว่าไม่เป็นธรรมเพราะแต่ละร้านขายได้ไม่ได้เท่ากัน ร้านที่ขายได้มากควรจะเสียมากกว่าเพื่อนำเงินไปจ้างแม่บ้าน ซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อปรับปรุงโรงอาหารให้ดีขึ้น และพอดีเป็นช่วงของการหมดสัญญาด้วยจึงมีการตกลงกันใหม่ โดยร้านใหญ่จะจ่ายเพิ่มเป็นเทอมละ 10,000 บาท และรายวันเสียเพิ่มอีกวันละ 50 บาท ประชุมกันแล้วไม่มีปัญหาอะไรและยืนยันไม่เคยเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง

ขณะที่เรื่องไล่เด็กออกเพราะโพสต์ภาพแต่งงานเป็นการให้ข้อมูลที่บิดเบือน ทางโรงเรียนไม่มีนโยบายที่จะไล่เด็กออก มีแต่จะทำอย่างไรจะช่วยให้เขาเรียนจบให้เป็นคนดีคนเก่งอยู่ในสังคมได้ ตนเองก็ยังไม่ได้พบผู้ปกครองของนักเรียนแต่อย่างใด ดังนั้นใครที่เป็นผู้โพสต์และโพสต์ต่อกันก็จะดำเนินตามกฎหมายด้วย