"ไหว้ขอโทษสังคม" 2 จนท.ฉาวถูกรวบ หลังเรียกรับเงินค่าปรับนักท่องเที่ยว
จากกรณีที่ได้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ว่าถูกชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่เรียกค่าปรับทิ้งก้นบุหรี่ในที่สาธารณะ ที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ แล้วไม่มีการออกใบเสร็จให้ เกรงว่าจะเป็นการแอบอ้าง เนื่องจากมีการเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งและสร้างความเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก
ล่าสุดเมื่อเวลา 23.30 น. ของวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 พ.ต.อ.สถิตย์ พราวแดง ผู้กำกับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้คุมตัวนายวิษณุ หรือป๊อบ อายุ 27 ปี และนายเกริกชัย หรืออาร์ม อายุ 24 ปี หลังจากทราบถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมต่อนักท่องเที่ยว จึงมีคำสั่งปลดออกจากการทำงานทันที พร้อมส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด โดยทั้งสองได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน ซึ่งตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 145 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
พ.ต.อ.สถิตย์ เปิดเผย ว่าเหตุการณดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ได้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาพร้อมไกด์เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกเรียกค่าปรับทิ้งก้นบุหรี่ แต่กลับไม่มีการออกใบเสร็จเกรงว่าจะทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปติดตามตัวมาสอบสวนถึงข้อเท็จจริง ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุทั้งสองรายยอมรับสารภาพว่ากระทำผิดจริง โดยนายอาร์มเป็นผู้เรียกเงินค่าปรับจากนักท่องเที่ยวรายแรก 2,000 บาท และรายที่สอง 400 หยวน ก่อนจะนำมาแบ่งสันบันส่วนกัน แต่ไม่มีใบเสร็จให้นักท่องเที่ยว จนนักท่องเที่ยวเข้ามาร้องเรียนและถูกจับกุมได้ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามทางเมืองพัทยาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจหลังทราบเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทั้งสองรายนั้นเป็นเพียงพนักงานที่ว่าจ้างผ่านบริษัทหนึ่งให้เข้ามาช่วยงานเท่านั้น ไม่มีสิทธิในการเรียกปรับแต่อย่างใด จึงได้สั่งให้เลิกจ้างผู้ก่อเหตุทั้งสองรายทันที พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนการแก้ปัญหาในกรณีดังกล่าวนั้นได้กำหนดให้มีการติดป้ายเตือนห้ามเพิ่มเติมให้เด่นชัด พร้อมกำชับให้ใช้การว่ากล่าวตักเตือน ประชาสัมพันธ์แทนการเรียกปรับเลย เพื่อป้องกันการกระทำผิดให้เสื่อมภาพลักษณ์ของเมืองพัทยา ภายหลังนายอาร์มได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษสังคมด้วย