พบซาก "เต่าตนุ" หัวขาด ถูกคลื่นชัดเกยตื้นชายทะเล คาดถูกตัดหัวทำของขลัง
พบซากเต่าตนุขนาดใหญ่น้ำหนักประมาณ 80-90 กิโลกรัม หัวขาด ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นชายทะเลป่าชายเลนกลางเมืองภูเก็ต เบื้องต้นคาดถูกล่าตัดหัวนำไปทำของขลัง
(11 พ.ย. 2561) เมื่อเวลา 19.10 น. เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน (ศวทม.) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบซากเต่าไม่ทราบชนิดตายถูกคลื่นซัดมาเกยตื้น
ที่บริเวณป่าชายเลนด้านหลังบ่อฝังกลบโรงงานเตาเผาขยะคลองเกาะผี ของเทศบาลนครภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเดินทางไปรับซากเต่าตัวดังกล่าว
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าเป็นซากเต่าตนุ อายุมากกว่า 20 ปี น้ำหนักประมาณ 80-90 กิโลกรัม ติดอยู่ที่บริเวณใต้ก้อนหินที่ป่าชายเลนดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ช่วยกันนำซากขึ้นมาปรากฏว่าหัวขาด มีกลิ่นเหม็นเน่าคละฟุ้งไปทั่วบริเวณ คาดตายมาแล้วประมาณ 4-5 วัน เบื้องต้นคาดติดอวนชาวประมงหรือถูกล่าแล้วถูกจับตัดเอาหัวเนื่องจากบาดแผลคล้ายถูกของมีคมตัด หรือถูกอวนรัดจนหัวขาด
เนื่องจากปัจจุบันเต่าทะเลที่เหลือน้อยใกล้สูญพันธุ์เพราะมักจะตายจากการถูกล่าจากผู้นิยมบริโภคเนื้อเต่า หรือนำไปทำของขลัง หรือติดอวนชาวประมง หรือขยะในทะเล จนตายลงเป็นจำนวนมาก ในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 30-50 ตัว จึงได้นำส่งไปยังศูนย์วิจัยฯ เพื่อให้ทางสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำโรงเตาเผาขยะว่า ขณะที่ตนปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรอยู่ตรงประตูทางเข้าโรงเตาเผา ได้มีชาวบ้านที่ลงเข้าไปหาปลาบริเวณป่าชายเลนหลังบ่อฝังกลบขยะว่าพบซากเต่าตายติดอยู่ใต้ก้อนหิน
ตนจึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในที่สุด อย่างไรก็ตามคาดว่าเต่าตัวดังกล่าวอาจถูกตัดหัวแล้วโยนลงทะเล หรือจะติดเศษอวนในทะเลแล้วตายจนถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นและตายในที่สุด