ฆ่าเปลือยสาวไทใหญ่ทิ้งศพบนรถเก่า คาดอดีตผัวดักฉุดไปข่มขืน-บีบคอจนตาย
สาวไทใหญ่ถูกฆ่าเปลือยทิ้งศพบนรถเก่า ตำรวจคาดฝีมืออดีตสามี หลังขู่ฆ่าหากไม่คืนดี พบสุดใจเย็นปล่อยทุกข์ระหว่างซุ่มรอดักฉุดเหยื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (12 พ.ย.) ตำรวจ สภ.แม่ริม และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ ตรวจสอบศพผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณบ้านพักคนงาน ส่วนจัดการต้นน้ำแม่สา ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นางติ้ง อายุ 34 ปี สัญชาติไทใหญ่ เป็นลูกจ้างของส่วนจัดการต้นน้ำแม่สา นอนเสียชีวิตอยู่บนเบาะรถยนต์ยี่ห้อแลนด์โรเวอร์ สีแดง ทะเบียน บว 6365 เชียงใหม่
สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีดำ ยกทรงถูกปลด ท่อนล่างเปลือยเปล่า กางเกงในและกางเกงขายาวลายลูกไม้สีดำขาววางไว้ตรงขา ตรวจสอบบริเวณอวัยวะเพศมีร่อยรอยการมีเพศสัมพันธ์ คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง โดยสภาพศพมีร่อยรอยการถูกบีบคอทำให้เสียชีวิต
ขณะที่ พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางติ้ง ได้ตื่นมาราวๆ 06.00 น. เพื่อทำอาหารให้คนงานของส่วนจัดการต้นน้ำกินตามปกติ
โดยหลังทำอาหารเสร็จก็หายตัวไปไม่มีใครเห็น จนเจ้าหน้าที่ออกมาตามเพื่อเรียกให้ไปทำงาน แต่ปรากฏว่าพบนางติ้งเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ดังกล่าวแล้ว
ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยของอุจจาระคนถ่ายทิ้งไว้ใกล้จุดเกิดเหตุ เบื้องต้น คาดว่าคนร้ายอาจมาดักซุ่มอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาจนกระทั่งรุ่งเช้า เมื่อเห็นนางติ้งจึงดักฉุดและลากตัวไปข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนลงมือบีบคอจนขาดอาการหายใจเสียชีวิต
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ อาจเป็นสามีเก่า คือนายชาย อายุ 31 ปี สัญชาติไทใหญ่ ซึ่งเคยอยู่กินกับนางติ้งมานานกว่า 2 ปี ก่อนจะเลิกรากันไป โดยนายชาย เคยมาตามง้อขอคืนดีผู้ตายแต่ไม่สำเร็จ
จึงบุกมาเผารถจักรยานยนต์ของผู้ตายที่บ้านแล้ว 1 ครั้ง จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ก่อนที่ฝ่ายนางติ้ง ไม่เอาเรื่องแต่นายชาย ก็ข่มขู่จะฆ่าทิ้งหากไม่กลับมาคืนดี แต่นางติ้ง ก็ไม่ยอมคืนดีด้วย เพราะทนอารมณ์ที่รุนแรงและซาดิสต์ของนายชายไม่ได้
เบื้องต้น ชุดสืบสวนได้เร่งติดตามตัวนายชาย ซึ่งทำงานอยู่ในโรงหล่อพระแห่งหนึ่งในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ แต่พบว่านายชายยังไม่มาทำงาน และเมื่อตรวจสอบไปยังที่พักก็พบว่าได้หายออกไปตั้งแต่เวลา 04.00 น.แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามตัวนายชาย ผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม