รอง ผอ.โรงเรียนดัง ร้องกองปราบฯ ถูกอาจารย์ ม.ดัง โกงเงินนักเรียน

รอง ผอ.โรงเรียนดัง ร้องกองปราบฯ ถูกอาจารย์ ม.ดัง โกงเงินนักเรียน

รอง ผอ.โรงเรียนดัง ร้องกองปราบฯ ถูกอาจารย์ ม.ดัง โกงเงินนักเรียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผู้อำนวยการโรงเรียนดัง เข้าร้องกองปราบฯ ถูกอาจารย์มหาวิทยาลัยโกงเงินนักเรียนค่าทัศนศึกษา เอาเอกสารรายชื่อเด็กๆ ไปใช้กู้เงินนอกระบบ

รองผู้อำนวยการของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าให้ข้อมูล และแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ในฐานะผู้เสียหาย หลังถูก น.ส.อัสมา อายุ 33 ปี หัวหน้าภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ฉ้อโกงเงิน

>> ผู้ปกครองแจ้งจับ "อาจารย์สาว" โกงเงินพานักเรียนไปซัมเมอร์ สูญกว่า 20 ล้าน

สืบเนื่องจากกรณีเข้ามาเสนอโครงการทำ TOR พานักเรียนของโรงเรียนไปทัศนศึกษา ที่ประเทศอังกฤษ เป็นระยะเวลา 15 วัน ในช่วงวันที่ 13 ตุลาคม - 27 ตุลาคม 2561 แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทางกลับพบว่าไม่สามารถติดต่อ น.ส.อัสมา ได้

รองผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ทางโรงเรียนได้มีการเปิดให้บริษัทเอกชน เข้ามาทำ TOR เพื่อพานักเรียนไปทัศนศึกษา ยังต่างประเทศ ซึ่งโครงการดังกล่าว ทางผู้ปกครอง เป็นผู้เห็นชอบให้มีขึ้น โดยปีนี้ ได้เลือกบริษัทของ น.ส.อัสมา เพราะเห็นว่าราคาไม่แพง สรุปคิดค่าเดินทางต่อราย รายละ 90,000 บาทต่อคน

ทั้งนี้ เมื่อลองตรวจสอบพบว่าบริษัทของ น.ส.อัสมา มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากพบว่าเจ้าตัวเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ประกอบกับการตั้งบริษัทมีเอกสารรับรองถูกต้อง จึงตัดสินใจเลือกให้ น.ส.อัสมา เข้ามาดูแลโครงการ

ต่อมากลับพบว่าเมื่อใกล้ถึงกำหนดเวลาที่จะเดินทาง ทางตนเองได้พยายามติดต่อหา น.ส.อัสมา ก็พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ประกอบกับ ทางอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ได้พยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จึงรู้ว่าถูกหลอก ซึ่งตนเองได้พยายามเดินทางไปหาที่มหาวิทยาลัยที่ น.ส.อัสมา เป็นอาจารย์อยู่ รวมถึง ไปหาที่บ้าน ก็ไม่พบ เบื้องต้นจึงเข้าแจ้งความกับ สน.บึงกุ่ม ในฐานะผู้เสียหาย

สำหรับการตรวจสอบที่มาของบริษัทดังกล่าว รองผู้อำนวยการ ระบุว่า พบมีชื่ออดีตอาจารย์ และ อาจารย์ปัจจุบันของโรงเรียน เป็นผู้ร่วมก่อตั้งด้วย แต่ น.ส.อัสมา เป็นกรรมการบริษัท ที่มีอำนาจในการลงนามแต่เพียงผู้เดียว

อย่างไรก็ตาม หลังจากพยายามติดต่อไปยังมหาวิทยาลัยที่ น.ส.อัสมา สอนอยู่ ก็พบว่า ชื่อของ น.ส.อัสมา ถูกคัดออกจากการเป็นอาจารย์แล้ว

และขณะนี้สิ่งที่ตนเองมีความกังวล คือเรื่องเอกสารของบุตรหลานที่นำไปให้ น.ส.อัสมา สำหรับดำเนินการทำพาสปอร์ตและวีซ่า ซึ่งทาง น.ส.อัสมา ได้นำเอกสารทั้งหมดของเด็กไปใช้ในการกู้เงินนอกระบบ เบื้องต้นพบว่ามีการนำเอกสารของเด็กไปใช้ในการค้ำประกันเงินกู้นอกระบบแล้ว 1 คน มูลค่าความเสียหาย 1 ล้านบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook