ตำรวจขับรถแซงไม่พ้น ประสานงาชน "รถบรรทุก 22 ล้อ" อาการสาหัส

ตำรวจขับรถแซงไม่พ้น ประสานงาชน "รถบรรทุก 22 ล้อ" อาการสาหัส

ตำรวจขับรถแซงไม่พ้น ประสานงาชน "รถบรรทุก 22 ล้อ" อาการสาหัส
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายดาบตำรวจขับรถ 191 แซงไม่พ้นพุ่งชนประสานงาบรรทุก 22 ล้อพ่วงบาดเจ็บสาหัส

13 พ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์และมูลนิธิใต้เต็กตึ้งเข้าให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเหตุรถบรรทุก 22 ล้อชนประสานงารถตำรวจ 191 ที่ถนนทุ่งใหญ่-พระแสง หมู่ 4 ต.ทุ่งสังข์ อ.ทุ่งใหญ่

สภาพที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 22 ล้อพ่วง ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 82-3576 สุราษฎร์ธานี ส่วนพ่วงท้ายทะเบียน 82-3577 สุราษฎร์ธานี ชนกับรถตำรวจ 191 ยี่ห้ออีซูซุ สีแดงเลือดหมู ทะเบียนตราโล่ 39839 ซึ่งอยู่ในสภาพพังยับเยิน อยู่ในพงหญ้าริมถนนทั้ง 2 คัน

ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นคือ ด.ต.ก้องภพ อายุ 49 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ถูกอัดก๊อบปี้อยู่ภายในรถ โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และพลเมืองดีได้ช่วยกันงัดตัวรถแล้วนำร่างของ ด.ต.ก้องภพ ออกมาจากซากรถและรีบนำส่ง รพ.ทุ่งใหญ่ ซึ่งพบว่า ด.ต.ก้องภพ อยู่ในอาการสาหัสเนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ ตามเนื้อตัวมีบาดแผลถลอก

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบคนขับรถบรรทุกรอมอบตัวคือนายวสันต์ อายุ 29 ปี ได้แจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุหลังขับรถบรรทุกไปส่งปาล์มน้ำมันที่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ก็ขับรถมาตามดังกล่าว

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ด.ต.ก้องภพ ได้รถสวนทางมาและแซงรถคันหน้าแต่ไม่พ้น ตนเองพยายามหลบแต่ไม่ทันจึงพุ่งชนประสานงากันดังกล่าว

เบื้องต้นพบว่า ด.ต.ก้องภพ ได้ขับรถตำรวจ 191 เพื่อไปดูการก่อสร้างป้อมตำรวจสายตรวจพิกุล แต่ระหว่างทางได้มาประสบเหตุเสียก่อน ซึ่งหลังเกิดเหตุทางข้าราชการตำรวจและผู้บังคับบัญชาได้เดินทางไปเยี่ยมอาการของ ด.ต.ก้องภพ ที่ รพ.ทุ่งใหญ่ พบว่าอาการสาหัสมาก จึงได้มีการส่งต่อไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งอาการล่าสุดยังคงอยู่ในภาวะวิกฤติ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ ตำรวจขับรถแซงไม่พ้น ประสานงาชน "รถบรรทุก 22 ล้อ" อาการสาหัส

ตร.ขับรถ191ประสานงานบรรทุก22ล้อสาหัส/นครศรี
ตร.ขับรถ191ประสานงานบรรทุก22ล้อสาหัส/นครศรี
ตร.ขับรถ191ประสานงานบรรทุก22ล้อสาหัส/นครศรี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook