รถตู้วงดนตรี "มาลีฮวนน่า" ชนอดีตทหารดับคาที่แล้วหนี อ้างนึกว่าไม่เป็นอะไรมาก

รถตู้ขนอุปกรณ์เครื่องดนตรีวงมาลีฮวนน่าชนอดีตทหารปั่นจักรยานออกกำลังกายตอนเช้า ก่อนหนีไปไกลกว่า 40 กม. แต่ไม่รอดถูกจับได้อ้างรถจักรยานขับตัดหน้า

เมื่อเวลา 05.00 น. (14 พ.ย. 61) ร.ต.อ.นพดล ภักดีสว่าง รอง สว.สอบสวน สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉียวชนคนปั่นจักรยานขณะออกกำลังกาย เสียชีวิต อยู่บนถนนสายเพชรเกษม กม.ที่ 471 ม.2 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสายชล มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์

โดยในที่เกิดเหตุอยู่ห่างหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนากระตาม เพียงเล็กน้อย โดยบนถนนช่องจราจรด้านซ้าย พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.ไพศาล เพชรพิรุณ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.9 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการทหารมณฑลทหารบกที่ 44 ชุมพร อยู่สภาพศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ กระดูกลำตัวหัก นอนจมกองเลือด ใกล้กันพบจักรยาน สภาพถูกชนอย่างแรงจนโครงรถงอ ที่ใต้เบาะไฟกะพริบ ยังกะพริบอยู่

จักรยานของผู้เสียชีวิต

นอกจากนี้ยังพบเศษชิ้นส่วนของรถยนต์คาดว่าเป็นรถคู่กรณีที่ชนแล้วหลบหนี ตกกระจายไปทั่วถนน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกเก็บหลักฐาน ก่อนให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เก็บร่างของผู้เสียชีวิตนำไปตรวจพิสูจน์อีกครั้งที่ โรงพยาบาลท่าแซะ ก่อนวิทยุแจ้งให้ด่านท่าแซะ และด่านบ้านพละ ออกสกัดรถต้องสงสัยที่ก่อเหตุแล้วหลบหนี

จนกระทั่งได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.ชาตรี ทองจันทร์ หน.ชุดปฏิบัติการด่านความมั่นคง บ้านพละ ว่าสามารถจับกุมรถยนต์ตู้ต้องสงสัย ร.ต.อ.นพดล ภักดีสว่าง รอง สว.สอบสวน สภ.ท่าแซะ จึงรุดไปตรวจสอบพบว่าเป็นรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฮอ 4413 กรุงเทพมหานคร บริเวณกระจกด้านหน้าแตกยุบ ไฟเลี้ยว กันชน ด้านซ้ายแตกพัง และยังมีรอยเลือดเปรอะเต็มประตู ทราบภายหลังเป็นรถของวงมาลีฮวนน่าวงดนตรีเพื่อชีวิตวงดัง โดยมีนายวินัย อายุ 63 ปี  รับเป็นคนขับรถคันดังกล่าว

จากการสอบสวน ในเบื้องต้น นายวินัย ให้การรับสารภาพว่า ตนขับรถขนอุปกรณ์เครื่องดนตรีของวงมาลีฮวนน่า กลับจากไปแสดงที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อจะเดินทางไปแสดงต่อทางภาคอีสาน จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนปั่นรถจักรยานออกมาจากข้างทาง คล้ายจะข้ามไปอีกฝั่งถนน ทำให้ตนซึ่งมาด้วยความเร็ว ไม่สามารถหักหลบได้ทันจึงชนเข้าอย่างจัง ส่วนที่ตนไม่หยุดก็นึกว่าไม่เป็นอะไรมาก จนมาถึงด่านบ้านพละ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ประจำได้เรียกและควบคุมตัวไว้ดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และพยายามหลบหนี โดยไม่ได้ให้ความช่วยเหลือได้ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ