ชีวิตต้องสู้! แม่จำใจทิ้ง 4 ลูกเล็กอยู่ลำพัง ออกหาเงินหลังขัดสนเพราะสามีติดคุก
สลด แม่จำใจทิ้งลูกวัย 4 เดือน อยู่กับพี่ๆ วัยไล่เลี่ยกันตามลำพัง โดยตัวเองออกไปทำงานหาเงิน หลังสามีติดคุก จนเกิดกระแสในโลกออนไลน์ ล่าสุดหน่วยงานรัฐเข้าไปดูแล 5 แม่-ลูก
วันนี้ 14 พ.ย. 61 ที่ทำการอาคารกองทุนแม่เพื่อชุมชน ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง กำนันนพพร หล่ำเจริญ กำนันตำบลแม่น้ำคู้ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุของค์การบริหารส่วนตำบลแม่น้ำคู้ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและมนุษย์จังหวัดระยอง ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 8 ปลัดอำเภอปลวกแดงตัวแทนนายอำเภอปลวกแดง ตัวแทนนายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง เข้าประชุมร่วมหารือเพื่อกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนางสาวรัดดา รัตณะมงคล คุณแม่ลูก 4 อายุ 27 ปี
กำนันนพพร กล่าวว่า ตามกระแสโลกโซเชียล ที่กล่าวถึงเฟสของผู้ที่ใช้ชื่อว่า Mai Maijung Ngawkainum โดยในเนื้อหาระบุว่ามีคุณแม่ลูก4ใช้ชีวิตอย่างขัดสน ทุกวันที่ออกไปทำงาน ต้องทิ้งลูกคนเล็กวัย 4 เดือน ไว้กับพี่ชายวัย 8 ปี พี่ชายไม่ได้เรียนหนังสือ
สมาชิกของครอบครัวคุณแม่ลูก 4 ประกอบด้วย เด็กชายธนพล พลยะมาตย์ อายุ 8 ปี เด็กชายอรรถพล พลยะมาตย์ อายุ 6 ปี เด็กชายพุฒิภัชร์ แสงมณี อายุ 2 ปี และเด็กชายศราวุฒ แสงมณี อายุ 4 เดือน ซึ่งหลังจากที่มีคนแชร์กันต่อๆ ไป ทำให้มีคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือครอบครัวคุณแม่ลูก 4 จำนวนมาก จนเกิดความวุ่นวาย และส่งผลเสียทางสังคม เนื่องจากมีกระแสข่าวออกมาในทางลบ ส่งผลเสียต่อครอบครัว
ทางชุมชนโดยกำนันนพพรได้ร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยหาแนวทางช่วยเหลือโดยได้ข้อสรุปว่า ให้ทางกำนันนพพรดูแลเกี่ยวกับที่พักอาศัย อบต.แม่น้ำคู้ ดูแลเงินช่วยเหลือ โรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 8 ดูแลเรื่องการเรียนหนังสือของเด็กชายสองคนโต ศูนย์เด็กเล็ก อบต.แม่น้ำคู้ ดูแล เด็กอายุ 2 ขวบ และ เด็กเล็กวัย 4 เดือน และให้คุณแม่จ้างคนเลี้ยงช่วงเวลาออกไปทำงาน โดยทาง อบต.แม่น้ำคู้ ร่วมกับ กำนันตำบลแม่น้ำคู้ ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย การช่วยเหลือดังกล่าวนี้
และให้ดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าพ่อของเด็กๆ จะพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ และมอบหมายให้กำนันนพพร เป็นผู้ดูแลให้การช่วยเหลือ ครอบครัวของ นางสาวรัดดา อย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการบูรณาการณ์ให้ความช่วยเหลือครอบครัวคุณแม่ลูก 4 ในครั้งนี้ ได้สร้างความซาบซึ้งใจให้กับนางสาวรัดดาเป็นอย่างยิ่ง