ล็อตใหญ่! รวบแก๊งยาเสพติดพร้อมยาบ้านับล้านเม็ด อาศัยช่วงน้ำท่วมลำเลียงลงใต้

รวบแก๊งยาเสพติดอาศัยช่วงชุมพรเกิดวิกฤติน้ำท่วม ลักลอบลำเลียงยาเสพติดลงใต้ แต่ไม่รอดถูกด่านความมั่นคงจับได้พร้อมของกลางบ้ากว่าล้านเม็ด ยาไอซ์ อีก 2 กก. ที่ซุกซ่อนมาในกระบะบรรทุกหกล้อดัดแปลงสำหรับขนยาเสพติดโดยเฉพาะ

วันที่ 15 พฤศจิกายน 61 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี รรท.ผบช.ภ.8,

นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร, พล.ต.ต. นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รรท.ผบก.ภ.จว.ชุมพร, พล.ต.พรชัย อินทนู ผบ.มทบ.44, พ.อ.เฉลิมพล เทโหปการ เสธ.พล ร.5, พ.ต.อ.พรพันธ์ ทิมขำ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร,

พ.ต.อ.ภาณุเดช ณ พัทลุง รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ศักดิ์ ศรีสุข รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร, พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร, พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร, พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร,

พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต, และนายสราวุธ ภักดี ผอ.ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 8 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ประจำด่านตรวจบ้านพละ

ร่วมแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหาจำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายมานพ อายุ 33 ปี, นายนิพัทธ์ อายุ 30 ปี และนายเกรียงศักดิ์ อายุ 53 ปี

พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 1,176,000 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 2 กก. รถยนต์บรรทุกหกล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 83-1959 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ตอนเดียว ทะเบียน บท-6204 ตาก จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือและของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ

โดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.30-12.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ประจำด่านตรวจบ้านพละ

โดยการนำของ พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ในฐานะหัวหน้าด่าน ได้นำกำลังร่วมกันตั้งด่านตรวจบน ถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ หมู่ที่ 3 ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร

ได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ตอนเดียว มีรั้วเหล็ก ทะเบียน บท-6204 ตาก ขับเข้าที่ด่าน จึงเรียกขอตรวจ พบนายมานพเป็นผู้ขับขี่ และมีนายนิพัทธ์ นั่งโดยสารมาด้วย

รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า จากการตรวจสอบทั้งคู่ พบทั้งคู่เป็นชาวม้ง จึงนำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียด จนพบผิดสังเกตจากโทรศัพท์มือถือไม่พบการโทรศัพท์เข้า-ออก หลงเหลือแม้แต่เบอร์เดียว มีเพียงเบอร์สุดท้ายที่ลงท้ายด้วย 11 โทรติดต่อมาหลายครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ

จึงสันนิษฐานได้ว่าทั้งคู่น่าจะเป็นรถนำทางของขบวนการยาเสพติด จึงได้ควบคุมตัวไว้ และจัดชุดสายตรวจนำรถส่วนบุคคลออกตรวจตามเส้นทางขาล่องก่อนถึงด่าน

จนพบรถยนต์บรรทุกหกล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 83-1959 เชียงใหม่ขับลงมามุ่งหน้าลงภาคใต้ จึงได้วิทยุแจ้งด่านตรวจให้สกัดเพื่อทำการตรวจค้น

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า จนกระทั่งรถบรรทุกคันดังกล่าวได้ขับมายังด่าน เจ้าหน้าที่จึงเรียกขอตรวจ ทราบชื่อคนขับคือนายเกรียงศักดิ์ แต่การตรวจค้นเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ

พบเพียงกระบะบรรทุกขิงสดที่นายเกรียงศักดิ์ แจ้งว่าบรรทุกมาจาก จ.เชียงใหม่ จะนำไปส่งที่ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบโทรศัพท์ พบหมายเลขที่ลงท้ายด้วย 11 เป็นเบอร์เดียวกับของสองคนที่ถูกควบคุมไว้ก่อนหน้า

เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวพร้อมรถมาตรวจค้นอย่างละเอียด พร้อมสอบเค้นจนนายเกรียงศักดิ์ยอมสารภาพว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในรถจริง ก่อนนำเจ้าหน้าที่ขึ้นไปบนกระบะพร้อมชี้จุดที่ซุกซ่อนยาเสพติด ซึ่งดัดแปลงโดยใช้เหล็กแผ่นเชื่อมเป็นช่อง กว้าง 5 นิ้ว ลึก 2 เมตร ติดกับฝากระบะด้านหน้าติดหัวเก๋ง

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันเปิดฝาประกบด้านบนออก พบยาบ้าซุกเรียงเป็นแถวแนวตั้งอย่างดี โดยห่อยาบ้าชั้นล่างสุด ผูกด้วยเชือกไนลอน เพื่อสะดวกในการดึงห่อยามัดขึ้นมา จากการตรวจนับ มียาบ้าจำนวน 1,176,000 เม็ด และไอซ์อีกจำนวน 2 กก.

ซึ่งเบื้องต้นทั้งสามให้การรับสารภาพว่า ได้รับจ้างขนยาเสพติด มาจาก จ.เชียงใหม่ เพื่อนำไปส่งให้เครือข่ายที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยรถนำจะได้คนละ 2 แสนบาท ส่วนรถขนยาจะได้ 1 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า, ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ขยายผล จนรู้ตัวต้นทางและปลายทางแล้ว และได้ขอหมายศาลเพื่อติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดแก๊งนี้ อีก 3 คนต่อไป