แหวนเพชรสุดอลังการ "พุฒ-จุ๋ย" เผยสินสอดงานแต่งไม่สำคัญเท่าเรารักกัน

จากพระนางคู่จิ้นที่มีโอกาสได้ร่วมงานกันในละคร ฝันเฝื่อง ก่อนจะเปลี่ยนสถานะกลายมาเป็นคนรัก และใช้เวลาคบหาดูใจกันมานานกว่า 4 ปีเต็ม กระทั่งวันนี้ 16 พฤศจิกายน 2561 พุฒ-พุฒิชัย เกษตรสิน และ จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา ได้ฤกษ์ดีจัดงานมงคลสมรสตามประเพณี ณ บ้านพระยา ศาลาริมน้ำ โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพ ท่ามกลางบรรยากาศเรียบง่ายและโรแมนติก

พร้อมกันนั้นในช่วงเวลา 14.30 น. คู่บ่าวสาวป้ายแดง พุฒ-จุ๋ย ได้ออกมาเปิดในถึงวันสำคัญนี้ให้บรรดาผู้สื่อข่าวฟังว่า

บรรยากาศงานพิธีเมื่อช่วงเช้าเป็นอย่างไรบ้าง ?

จุ๋ย - "สำหรับพิธีเช้าก็จะมีการทำบุญตักบาตรและก็เลี้ยงพระ จากนั้นก็จะเป็นการแห่ขบวนขันหมาก ตามด้วยพิธีหมั้น ซึ่งทั้งหมดเป็นพิธีแต่งงานแบบไทยๆ ภายในงานวันนี้ก็จะมีแต่ญาติสนิทและคนในครอบครัว (ยิ้ม) จากนั้นจึงค่อยเข้าสู่พิธีของการหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ที่เชิญแขกผู้ใหญ่ในวงการที่เรานับถือและเพื่อนพ้องทุกๆ คนมาร่วมงาน"

พุฒ - "สำหรับช่วงประตูเงินประตูทองในวันนี้ก็จะมีทั้งหมด 12 ประตูครับ กว่าจะผ่านแต่ละประตูไปได้ก็ยากพอสมควร คือการที่จะได้เจ้าสาวที่ดีขนาดนี้มาเป็นคู่ชีวิตมันก็ต้องมีอุปสรรคกันนิดหนึ่ง (ยิ้ม) จริงๆ แล้วบางด่านประตูเขาก็จะโหด แต่บางประตูเขาก็จะน่ารัก อย่างเช่นด่านของ น้องปีใหม่ ที่ถือว่าเป็นด่านแรกของงานเลย โดยเขาจะให้ผมหอมแก้มและประตูก็เปิดแค่นั้นเองครับ ผมก็เลยจัดซองให้ไปอย่างหนัก (หัวเราะ)"

ช่วงที่ขบวนขันหมากกำลังเดินทางมาความรู้สึกเราเป็นอย่างไรบ้าง ?

จุ๋ย - "จุ๋ยก็จะถามคนข้างนอกตลอดค่ะว่าถึงไหนแล้วทำไมช้าจัง ระหว่างนั้นจุ๋ยก็จะแอบดูตลอด จนกระทั่งเขาเข้ามาถึงในตึกซึ่งจุ๋ยมองไม่เห็น จุ๋ยมองว่ามันเป็นการแต่งงานแบบไทยๆ ที่คลาสสิค มันเลยค่อนข้างอธิบายความรู้สึกยาก"

บรรยากาศช่วงพิธีสวมแหวนเป็นอย่างไรบ้าง ?

พุฒ - "ซาบซึ้งครับเพราะก่อนที่เราสวมแหวนก็จะมีผู้ใหญ่มาคอยให้พร ทั้งคุณพ่อคุณแม่ของจุ๋ย และญาติผู้ใหญ่ของจุ๋ยที่ยกลูกสาวให้กับเราเพื่อให้เราได้ดูแล มันก็จะเป็นโมเมนต์ซึ้งๆ ครับ ที่ทำให้เราสองคนแอบมีน้ำตาเหมือนกัน (ยิ้ม) ถ้าถามว่าตอนสวมแหวนเราได้พูดอะไรให้กันบ้าง เอ่อ...เราแทบจะไม่ได้พูดเลยนะครับนอกจากยิ้มให้กันอย่างเดียว"

จุ๋ย - "ตอนที่จุ๋ยกราบที่ตักเขา เขาก็ต้องยืดตัวเป็นธรรมดา (หัวเราะ)"

พุฒ - "มันเป็นการได้ยืดครั้งสุดท้ายแล้วครับ (หัวเราะ)"

หลายคนก็อยากรู้ว่าสินสอดทองหมั้นอู้ฟู่ขนาดไหน ?

จุ๋ย - "ทุกอย่างเป็นไปตามความเหมาะสมค่ะ เหมือนเราก็รวมมาเพื่อให้มันอยู่ในพานขันหมากและดูสวย จุ๋ยเชื่อว่าสมัยนี้คงไม่มีใครเขาเอามากันทั้งบ้านหรอก ทุกอย่างก็เป็นไปตามความเหมาะสมเป็นไปตามประเพณี เนื่องจากที่บ้านเราสองคนก็จะยึดหลักกันว่า ความรักสำคัญมากกว่าทรัพย์สินเงินทอง แล้วทุกคนก็รู้ดีอยู่แล้วว่าพุฒเป็นคนที่ทำงานหนักทำงานเพื่อครอบครัว เราจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรมากมายใหญ่โตค่ะ (ยิ้ม) สำหรับแหวนที่จุ๋ยใส่ก็เกือบๆ 3 กะรัตค่ะ จริงๆ แค่นี้ก็พอแล้วนะคะสงสารเขา อีกอย่างตัวจุ๋ยเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรใหญ่โตมากมาย แค่เป็นแหวนแทนใจ แทนความมั่นคง แทนความผูกพันที่เขามีให้ก็พอ"

ชุดแต่งงานของเจ้าสาววันนี้มีทั้งหมดกี่ชุด ?

จุ๋ย - "สำหรับชุดวันนี้ก็มีชุดของเจ้าบ่าว 4 ชุด และชุดของเจ้าสาว 3 ชุดค่ะ"

คุณพ่อคุณแม่ของเราสองคนได้ฝากฝังอะไรไว้บ้าง ?

พุฒ - "คุณพ่อคุณแม่ของจุ๋ยเขาบอกผมว่า 'เขารักจุ๋ยดั่งดวงใจเลยนะ จึงอยากฝากดูแลลูกของพ่อแม่ด้วย' ซึ่งตอนที่เขาพูดเสียงเขาก็สั่นๆ และก็มีน้ำตาคลอๆ มันก็เลยทำให้เราสองคนรู้สึกตามไปด้วย"

จุ๋ย - "ปกติคุณพ่อเป็นคนที่เสียน้ำตายากมาก คุณพ่อจะไม่ค่อยชอบร้องไห้เท่าไหร่ แต่อาจจะเพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของลูกสาวคนเดียว ท่านก็เลยมีน้ำตาให้เห็นนิดหนึ่ง ส่วนทางครอบครัวของพุฒคุณพ่อคุณแม่ท่านก็จะเป็นคนอารมณ์ดี แต่วันนี้ท่านก็มีบ้างเหมือนกันที่ตื้นตันจนพูดไม่ออก ซึ่งเราทั้งสองคนก็พอจะเดาได้ว่าท่านต้องดีใจอยู่แล้ว จุ๋ยรู้สึกว่าบรรยากาศในงานแต่งวันนี้อบอุ่นมาก พอได้เห็นคนที่เรารักและรักเรามาอยู่ร่วมกันในงาน มันเป็นความรู้สึกที่ประทับใจมากๆ ค่ะ เพราะตัวจุ๋ยเองก็ร้องให้ตั้งแต่เปิดตัวเลยเหมือนกัน"

ตอนนี้ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการแล้ว ความรู้สึกเปลี่ยนไปไหม ?

จุ๋ย - "จริงๆ ทุกวันนี้เราก็ยังเป็นเหมือนเดิมนะคะ เราจะรักกันแบบนี้ไปตลอดและจะดูแลกันให้มากขึ้นกว่านี้ด้วยซ้ำ จากนี้การใช้ชีวิตของเราคงเปิดเผยมากขึ้น เพราะทุกคนก็ได้รู้แล้วว่าเราคือสามีภรรยากัน จะดูแลกันตลอดไปค่ะ"

พุฒ - "ผมคิดว่าในวันพรุ่งนี้ตอนที่เราตื่นขึ้นมา ความรู้สึกที่ผมมีให้กับเขามันก็คงจะยิ่งแน่นแฟ้น ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นดูแลเขาให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเขาคือคนที่ผมจะใช้ชีวิตด้วยตลอดไป สัญญาจะดูแลเขาให้ดีที่สุดในทุกวันครับ"

แพลนการมีน้องของเราสองคนตอนนี้ตั้งใจไว้ยังไงบ้าง ?

จุ๋ย - "คงยังมีเลยตอนนี้ไม่ได้ค่ะเพราะจุ๋ยยังติดงานถ่ายละครอยู่ อาจจะต้องขอเวลาสัก 2-3 เดือนแล้วค่อยมาวางแผนแบบจริงจัง แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีนัดตรวจสุขภาพแล้วค่ะ"

เราสองคนจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยแล้วหรือยัง ?

จุ๋ย - "ยังเลยค่ะ จริงๆ ก็มีฤกษ์อีกนะ ทุกอย่างมีฤกษ์หมดเลย ซึ่งก็ยังไม่ใช่วันนี้ค่ะ ตอนนี้ยังคงเป็นนางสาวอยู่ แต่ด้วยความที่เราทำงานในวงการบันเทิง คนก็จะจำได้แล้วว่าจุ๋ยคือ จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา ซึ่งชื่อในวงการบันเทิงก็ยังเป็นชื่อนี้อยู่ แต่เดี๋ยวค่อยดูกันอีกทีค่ะว่า เมื่อจดทะเบียนแล้วจะเป็นอย่างไร"

วางแพลนฮันนีมูนกันไว้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ?

พุฒ - "เมื่อวานนี้เราคุยกันว่าก่อนที่เราจะแต่งงาน เราก็จะมีแฮชแท็ก #ทุกที่คือพรีเวดดิ้ง แต่พอหลังจากแต่งงานเสร็จเราก็จะเปลี่ยนแฮชแท็กเป็น #ทุกที่คือฮันนีมูน ครับผม (หัวเราะ)"

จุ๋ย - "ใช่ค่ะ เพราะเราไปเที่ยวทุกที่เราก็หวานได้ตลอดอยู่แล้ว แถมยังมีเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันคอยถ่ายรูปให้ด้วย จุ๋ยเลยรู้สึกว่าทุกที่เราก็สามารถดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ได้เหมือนกัน แต่ประเทศที่อยากไปจริงๆ ก็มีอยู่ 2 ประเทศค่ะ คือสก็อตแลนด์กับแคนาดา เพราะเราสองคนชอบไปเที่ยวประเทศที่เป็นแนวธรรมชาติ เราจะไม่เน้นช้อปปิ้ง เพราะที่ผ่านมาเราช้อปปิ้งกันพอแล้วค่ะ"

เรือนหอของเราสองคนตอนนี้ใกล้เสร็จแล้วหรือยัง ?

จุ๋ย - "ก็ยังคืบหน้าไปได้ 20 - 30 เปอร์เซ็น เองค่ะ"

พุฒ - "คือช่วงที่ผ่านมามันอาจจะติดหน้าฝน ก็เลยทำให้ผู้รับเหมาล่าช้า รวมถึงเราเองก็อยากให้เขาทำให้ดีที่สุด ถึงช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้บ้านของเราแข็งแรงและไม่มีปัญหาในภายหลังก็พอ"

ระหว่างที่อยู่ในพิธีการได้มีการให้คำมั่นสัญญาอะไรบ้าง ?

จุ๋ย - "จริงๆ พุฒเขาเป็นคนที่ทำให้เห็นทุกวันอยู่แล้วค่ะ แต่ก็มีคำพูดของเขาเหมือนกันที่พูดบนเวทีต่อหน้าคุณพ่อคุณแม่ของจุ๋ย รวมถึงตัวจุ๋ยเองก็ด้วยที่บอกกับเขาว่าต่อไปจะดูแลเขาให้ดี"

แต่งงานแล้วจุ๋ยจะเบรกงานในวงการบันเทิงหรือเปล่า ?

จุ๋ย - "ตราบใดที่ยังไม่ตั้งท้องก็จะไม่ลดงานค่ะ แต่ถ้ามีน้องก็อาจจะต้องลดลงบ้างตามสภาวะร่างกาย"

กว่าเราจะมีวันนี้ได้ก็ผ่านเรื่องราวมามากมาย มีอะไรอยากจะบอกกันบ้าง ?

พุฒ - "เราบอกกันเสมออยู่แล้วครับ คู่เราเริ่มต้นกันโดยที่ไม่ได้หอมหวาน คนไม่ค่อยจะแฮปปี้ตั้งแต่แรก แต่เราก็รู้กันอยู่สองคนว่า เราจริงใจให้กับเขา เขาจริงใจให้กับเรา เราไม่สนเรื่องเงินทองหรือความดัง เราแค่มองว่า ความรักครั้งนี้เป็นความรักที่เราอยากจะใช้ชีวิตคู่ไปกับเขา จนวันสุดท้ายของชีวิตเรา เราจะบอกกับเขาเสมอว่าเราจะสู้ไปด้วยกัน จับมือไปด้วยกัน เราจะอดทนเพราะเดี๋ยววันหนึ่งมันก็จะผ่านไป"

จุ๋ย - "ขอบคุณค่ะที่จับมือจุ๋ยแน่นๆ มาตลอดไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็แล้วแต่ แต่จุ๋ยเข้าใจโลกและเข้าใจความเป็นคน ณ ตอนนั้นที่เจอปัญหา ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส แต่มันก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งเขาก็เป็นคนหนึ่งที่จับมือเรา ทำให้เราเชื่อมั่น พุฒจะคอยให้เกียรติจุ๋ยเสมอ วันนี้ที่ครอบครัวจุ๋ยพูดถึงพุฒก็จะมีแต่คำชื่นชมและดีใจที่ได้พุฒมาเป็นลูกเขย สิ่งเหล่านี้มันทำให้จุ๋ยรู้ว่าเขารักเราแค่ไหน และจุ๋ยก็รักพุฒมากๆ จุ๋ยพร้อมที่จะดูแลเขา พร้อมที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับเขา ต้องขอบคุณมากที่รักกันแบบนี้มาตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน"