ความในใจ "เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้" 17 ปี ในวงการบันเทิง เคยถูกเกลียด แค่เพราะแตกต่าง
เด็กสาวจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่แจ้งเกิดให้กับตัวเองด้วยการคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 ดัชชี่เกิร์ล ประจำปี 2001 พร้อมทักษะความสามารถและพรสวรรค์ที่ติดตัวมา จนตอนนี้ก็เป็นระยะเวลากว่า 17 ปีแล้ว ที่ อิม-อชิตะ สิกขมานา หรือ เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้ เติบโตขึ้นและกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงคุณภาพของวงการบันเทิง
ซึ่งตัวเธอเองได้เล่าให้ทีมข่าว Sanook! News ฟังด้วยความรู้สึกที่ทั้งเซอร์ไพรส์และตกใจกับหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเองบนเส้นทางชีวิตสายบันเทิงเช่นเดียวกัน โดยเธอยอมรับว่ากว่าจะมีวันนี้ได้ เธอเคยมีทั้งคนที่รัก และคนที่เกลียดมาก่อนเพราะบุคลิกที่แตกต่าง แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เลือกที่จะเป็นตัวของตัวเอง เพื่อจุดประสงค์เดียวคือ มอบความสุขให้กับทุกคน
"เฟี้ยว์เริ่มเข้าวงการตั้งแต่สมัยประกวดหนุ่มสาวดัชชี่ ซึ่งชีวิตของเฟี้ยวมันพลิกผันมาก เพราะเอาจริงๆ นะ ตอนนี้คนอื่นเขาหายไปไหนกันหมดแล้วก็ไม่รู้ หรือไม่บางคนเขาก็มีลูกมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว ซึ่งเฟี้ยวไม่เคยสังเกตตัวเองเลยว่าเราอยู่วงการนี้มานานมากแค่ไหน แต่พอได้ลองมานั่งนึกดู ถึงได้รู้ว่าเราอยู่วงการนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว คือแบบสาธุเลยค่ะ สาธุจริงๆ นะที่เฟี้ยวมีโอกาสได้อยู่ในวงการมานานขนาดนี้ (ยิ้ม)"
"ไม่เคยคิดเลยจริงๆ ค่ะว่าจากเด็กธรรมดาๆ ที่ประกวดดัชชี่ในวันนั้น จะทำให้เฟี้ยวได้กลายมาเป็นเฟี้ยว์ในวันนี้ ที่ผ่านมาเฟี้ยวได้รับโอกาสมากมายจากผู้ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น งานพิธีกร งานละคร งานภาพยนตร์ งานดีเจ เฟี้ยวได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์หลายๆ อย่างมากในวงการบันเทิง ขอบคุณผู้ใหญ่จริงๆ นะคะที่ยังมอบโอกาสให้กับเฟี้ยวอยู่ รวมถึงเพื่อนๆ ในวงการหลายๆ ท่าน ที่ตอนนี้เราเป็นเหมือนครอบครัวกันไปแล้ว"
"ยังจำได้เลยนะว่าช่วงแรกที่เฟี้ยวเข้ามาในวงการและมีโอกาสได้ทำงานพิธีกร ก็มีคนดูหลายๆ คนที่เขารับไม่ได้ เขาไม่ชอบบุคลิกเราที่เป็นคนเสียงดัง เกลียดเราด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง พี่โน้ส อุดม เขาเรียกเฟี้ยวไปหาเพราะอยากจะคุยด้วย คือพูดได้เลยว่าวันนั้นเป็นวันที่ปลื้มมาก ซึ่งเหตุผลที่พี่โน้สอยากเจอก็เพราะเขาเห็นว่าเฟี้ยวเป็นคนที่แปลก เป็นคนแบบที่พี่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน (หัวเราะ) และวันนั้นพี่โน้สเขาก็บอกเฟี้ยวมาประโยคหนึ่งว่า 'วันนี้มึงเป็นยังไง ในอนาคตมึงก็ต้องเป็นแบบนั้นนะ มึงจำคำพูดพี่เอาไว้' นับจากนั้นเป็นต้นมาเฟี้ยวก็จำคำพูดของพี่โน้สมาตลอด รวมถึงคำสอนของพี่ๆ ในวงการอีกหลายๆ คน ที่เฟี้ยวได้มีโอกาสรู้จัก เพราะเฟี้ยวอยากทำให้คนที่ดูผลงานของเฟี้ยวมีความสุขกับตัวตนของเฟี้ยวจริงๆ"
คงไม่ผิดหากเราจะบอกว่า ทัศนคติและการเลือกที่จะมองโลกในแง่ดีของ เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้ คือหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เธอกลายเป็นที่รักของแฟนๆ เพราะทุกครั้งที่เธอปรากฏตัวบนหน้าจอ เธอมักจะนำเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และความสนุกสนาน มามอบให้กับทุกคนเสมอ จนหลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้หญิงคนนี้ทุกข์เป็นหรือเปล่า ซึ่งเธอมักจะบอกกับตัวเองเสมอว่า เธอไม่ใช่ซุปตาร์หรือแม้กระทั่งคนดัง ถึงแม้เธอจะอยู่ในวงการบันเทิงมานาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องปฏิบัติตัวให้พิเศษกว่าคนอื่น
"ถามว่าตัวจริงเฟี้ยวเป็นคนสนุกสนานเหมือนกับที่เห็นในทีวีไหม เอ่อ...ก็คิดว่าเป็นคนอารมณ์ดีนะ แต่ต้องบอกก่อนว่าถ้าหากเป็นโหมดงาน เราก็จะต้องคุยกันจริงจังบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเฟี้ยวก็เชื่อเสมอว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ เราต้องมีความสุขและสนุกไปกับมันเราถึงจะทำมันได้สำเร็จ งานของเราจะออกมาดี (ยิ้ม) ส่วนเรื่องความทุกข์ หลายคนอาจจะไม่เคยเห็นว่าเฟี้ยวทุกข์ยังไงหรือเศร้าเป็นไหม แต่เฟี้ยวก็เคยเสียน้ำตานะ เสียน้ำตาให้กับบางเรื่องที่ทุกคนก็คงน่าจะทราบกันดี แต่หลักๆ แล้วก็ไม่ค่อยมีเรื่องให้เสียใจหรอกค่ะ"
"ซึ่งเฟี้ยว์คิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะนิสัยการที่เราเป็นคนชอบพูดทุกอย่างด้วยความจริงใจมากกว่า ถึงทำให้เราเป็นคนไม่ค่อยเครียดกับอะไรง่ายๆ ยกตัวอย่างก็คือถ้าวันไหนเฟี้ยวรู้สึกแย่และมีโอกาสได้ไปกองถ่าย เฟี้ยวก็จะเล่นใหญ่แล้วก็บอกกับทุกคนว่า 'พี่ๆ มาปลอบใจหนูเลย หนูเศร้า' (หัวเราะ) คือเราเป็นคนที่พูดสุดและไม่เก็บอะไรไว้ในใจเลย ซึ่งนี่แหละมันทำให้เฟี้ยวรู้สึกสบายใจกับทุกๆ อย่าง ทุกๆ ปัญหาที่มีเข้ามา เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกเครียด เราก็แค่ระบายและพอได้ระบาย มันก็จบ"
"นอกจากนั้นแล้วอีกเรื่องหนึ่งที่เฟี้ยว์ทำอยู่บ่อยๆ ก็คือ หากเมื่อไหร่ก็ตามที่เฟี้ยวรู้สึกว่าเฟี้ยวทำไปแล้ว และส่งผลให้คนอื่นเขารู้สึกไม่สบายใจ เฟี้ยวจะขอโทษทันที เฟี้ยว์จะไม่เก็บไปคิดเลยว่าเราทำไม่ดีกับคนนั้นคนนี้ไปหรือเปล่า หรือกับบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเรา อย่างเช่นพี่ๆ คอสตูมในกองละคร บางครั้งเขาก็จะมาก้มเพื่อใส่รองเท้าให้เฟี้ยว แต่เฟี้ยวก็จะบอกเขาไปตรงๆ ว่า 'พี่อายุเยอะกว่าหนู หนูทำเองได้ หนูไม่ได้เป็นง่อย' คือเราต้องเอาความเป็นจริง ชีวิตจริงของเรา มาอยู่ในการทำงานของเราด้วย เพราะถ้าหากเราทำแบบนั้นได้ เราเองนี่แหละที่จะรู้สึกมีความสุข"
"เฟี้ยว์ไม่เคยคิดเลยว่า ตัวเองอยู่วงการมานานหรือเราเป็นคนดัง เป็นซุปเปอร์สตาร์ เพราะจริงๆ แล้ววงการบันเทิงก็คือวงการเล็กๆ วงการหนึ่ง โลกข้างนอกยังมีอะไรอีกตั้งเยอะแยะมากมาย ดังนั้นเราอยู่กันแบบเป็นพี่เป็นน้องดีกว่า"
ด้วยประสบการณ์การทำงานที่หลากหลาย ไม่ใช่เพียงแค่การเป็นนักแสดง เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้ ยังเป็นทั้งพิธีกรภาคสนามลงพื้นที่เพื่อช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวตามแหล่งชุมชนต่างๆ ซึ่งนั่นทำให้เธอได้สัมผัสกับชีวิตและความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในหลากหลายรูปแบบ
จนเธอเกิดความตั้งใจว่า ภายในระยะเวลา 4 ปี หลังสิ้นปี 2561 นี้ เธอจะทำงานเก็บเงินเพื่อสร้างศูนย์พัฒนาอาชีพให้กับคนในชุมชนบ้านเกิดของเธอ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยหวังที่จะใช้พื้นที่นี้ช่วยสร้างรายได้และสร้างความแข็งแรง ให้กับพี่น้องประชาชนในทุกๆ ครัวเรือน
"หนึ่งในความตั้งใจของเฟี้ยวที่ยังไม่เคยบอกใคร และตั้งใจว่าจะทำในเร็วๆ นี้ก็คือ ในอีก 4 ปีข้างหน้า เฟี้ยวจะทำงานเก็บเงินเพื่อสร้างศูนย์พัฒนาอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ เฟี้ยวอยากจะทำทุกๆ อย่างให้ชาวบ้านมีรายได้ ให้เขามีเงินเลี้ยงครอบครัว เพราะเฟี้ยวเคยสัมผัสมาแล้วกับชีวิตของหลายๆ ครอบครัว ที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะเดินต่อไปได้อย่างไร ความยากจนมันน่ากลัวมากนะคะ"
"ฉะนั้นในฐานะที่เฟี้ยว์เป็นลูกหลานของคนเชียงใหม่ เฟี้ยวก็อยากจะทำให้ทุกคนในชุมชนของเราเป็นชุมชนที่แข็งแรง ทุกคนมีรายได้ในการเลี้ยงดูครอบครัว และมีความสุขกับชีวิตของตัวเองในอนาคต นี่คือความฝันที่เฟี้ยวตั้งใจจะทำให้ได้อย่างแน่นอนค่ะ"
"ขอเวลาเฟี้ยวอีก 4 ปีนะคะ เฟี้ยว์จะทำพื้นที่ให้ทุกคนได้มีอาชีพ ให้ทุกคนได้มีครอบครัวที่แข็งแรง เพราะการที่เราต้องรอหลายๆ หน่วยงานเข้ามาช่วยมันอาจจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเขาก็มีอีกหลายพื้นที่ที่ต้องดูแล ดังนั้นในเมื่อเฟี้ยวมีกำลังพอที่จะช่วยคนในตำบล คนในหมู่บ้าน เฟี้ยวก็อยากจะทำ เพราะนี่คือสิ่งที่ทำให้เฟี้ยวมีความสุขที่สุดแล้ว เฟี้ยวรู้สึกว่าในเมื่อเรามีโอกาสขนาดนี้ เราก็ควรที่จะต้องทำเพื่อคนอื่นบ้าง เฟี้ยวโตมากับแม่ เฟี้ยวได้เห็นทั้งโลกความเป็นจริงและโลกธรรมะ มันก็เลยเป็นส่วนผสมที่ประสานกันและทำให้เฟี้ยวได้ใช้ชีวิตอย่างที่เป็นอยู่"
ไม่เพียงแต่เธอจะประสบความสำเร็จในฐานะคนบันเทิงที่มากด้วยความสามารถและฝีมือในการทำงานเท่านั้น แต่บทบาทในฐานะนักธุรกิจ เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้ ก็ยังโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะแบรนด์คอลลาเจนน้องใหม่ภายใต้การดูแลของเธอ อย่าง Quick Collagen ที่เปิดตัวได้เพียง 4 เดือน ก็เพิ่งจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ จนสามารถจัดทริปบินลัดฟ้าพาตัวแทนทั่วประเทศไทย ไปฉลองไกลส่งท้ายปีถึงประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งเธอเผยว่าหลักการของเธอในฐานะนักธุรกิจนั้น ไม่ได้มีกฎซับซ้อนหรือการทำงานที่เข้มงวดแต่อย่างใด แต่เธอเลือกที่จะใช้ความสนุก ความใส่ใจ และดูแลผู้บริโภค รวมถึงตัวแทนทุกคนให้เหมือนกับเป็นคนในครอบครัว
"สำหรับบทบาทของเฟี้ยวในฐานะนักธุรกิจ การได้มาทำแบรนด์ Quick Collagen ถือได้ว่าเป็นโปรเจกต์ที่แฮปปี้มากๆ แล้วก็ไปได้ไกลมากๆ คือมันแข็งแรงมากเกินคาด เพราะในเวลาเพียงแค่ประมาณ 4 เดือน แบรนด์ของเราสามารถตอบโจทย์ผู้ทานได้อย่างแท้จริง จากที่เรามีเพียงแฟนคลับกลุ่มเล็กๆ และตัวแทนในประเทศ แต่ตอนนี้เราสามารถก้าวไปไกลถึงต่างประเทศแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ลาว เกาหลี หรือญี่ปุ่น"
"แถมล่าสุดเรายังสามารถพาตัวแทนในประเทศไทย มาจัดทริปมีตติ้งรวมตัวกันในประเทศญี่ปุ่นได้แล้วด้วย มันเป็นอะไรที่รู้สึกแฮปปี้มากเลยค่ะในฐานะผู้บริหาร อย่างทริป สุดสวิงริงโก้ by Quick Collagen ที่เราจัด เฟี้ยวก็ได้มีโอกาสชวนคุณแม่มาร่วมนำสวดมนต์ให้กับแฟนๆ และตัวแทนที่เดินทางมาด้วยกัน เพื่อที่พอเรากลับไปถึงบ้าน เราจะได้มีความสุขและเฮงไปด้วยกันค่ะ (ยิ้ม)"
"เฟี้ยวต้องบอกก่อนว่าการทำธุรกิจของเฟี้ยว เราทำกันแบบเป็นครอบครัว เราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ก็เหมือนอย่างที่เฟี้ยวบอก หากเราทำอะไรก็ตามด้วยความสุข ความสนุก เราจะมีพลังในการเดินหน้าต่อเอง เฟี้ยวไม่เคยมีลิมิตไม่เคยปิดกั้นตัวแทน แต่เฟี้ยวขอพวกเขาแค่อย่างเดียวก็คือ เราต้องทำทุกอย่างด้วยความจริง เราจะต้องไม่โอเวอร์ เพราะการโอเวอร์คือการหลอกลวงผู้บริโภคซึ่งเฟี้ยวไม่ต้องการ เฟี้ยวอยากให้เขารักแบรนด์ของเราด้วยตัวเขาเอง อยากให้เขาได้มาลองด้วยตัวเอง เพราะเฟี้ยวไม่ได้ถูกรับจ้างให้มาเป็นบอส แต่เฟี้ยวมาทำตรงนี้เพราะเฟี้ยวอยากให้คนที่ได้ทานมีความสุข และพอใจกับผลิตภัณฑ์ของเราจริงๆ"
เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลา 17 ปี ในวงการบันเทิง ของผู้หญิงอารมณ์ดี ตัวเล็ก แต่อินเนอร์ใหญ่ อย่าง เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้ นั้นไม่มีคำว่าหยุดอยู่กับที่จริงๆ
ซึ่งทีมข่าวบันเทิง Sanook! News เชื่อว่า นับตั้งแต่นี้ไปเราคงได้มีโอกาสเห็นผลงานของเธอในอีกหลากหลายรูปแบบ สมกับคอนเซ็ปต์ สุดสวิงริงโก้ อย่างแน่นอน
>> "เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้" บทบาทของ "ผู้ให้" ปันที่ดินให้ชาวนาปลูกข้าวฟรี
>> หนูอิมอิม ประกาศเปลี่ยนชื่อ(อีกแล้ว) สุดเก๋ไก๋ "น.ส.เฟี้ยว์ฟ้าว"
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ