ดังทั่วโซเชียลจีน รูปถ่ายเจ้าหน้าที่รัฐฯ วัย 30 “ผู้มีผมสีดอกเลา”
รูปถ่ายเจ้าหน้าที่รัฐบาลวัย 30 ปี “ผู้มีผมสีดอกเลา” กลายเป็นไวรัลในจีน ชาวเน็ตต่างสงสัย เหตุใดจึงมีผมขาวมากขนาดนี้?
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า “หลี่ จงข่าย” เจ้าหน้าที่รัฐบาลวัย 38 ปี ผู้ทำงานในเมืองฉู่สง มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กลายเป็นบุคคลที่กำลังถูกพูดถึงอย่างหนาหูในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน เนื่องจากหลายคนรู้สึกสงสัยว่าเขาอายุแค่ 30 กว่า แต่เหตุใดจึงมีผมขาวมากขนาดนี้
จุดเริ่มต้นของไวรัลนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีผู้เห็นภาพโปรไฟล์เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเว็บไซต์ทางการของรัฐบาลท้องถิ่น จากรายงาน หลี่ผู้เกิดในปี 1980 ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำตำบลหว่านปี้ในอำเภอต้าเหยา ทว่าผมสีเทาของเขาทำให้หลายคนตั้งถามว่าเขามีอายุ 38 ปีจริงหรือไม่
ความสงสัยนี้ได้คลี่คลายลงหลังจากรัฐบาลท้องถิ่นได้ออกมายืนยันในภายหลังว่า รูปติดบัตรที่เห็นอยู่ในเว็บไซต์ เป็นภาพของหลี่ที่ถ่ายในขณะที่เขามีอายุ 38 ปีจริง พร้อมกันนั้นเพื่อนร่วมงานของหลี่ยังบอกกับสื่อด้วยว่า ที่ผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทาก่อนวัยอันควรเช่นนี้ เนื่องจากในช่วงปี 2011-2014 เขามีภาระงานหนักมาก
มีสื่อรายงานว่า หลี่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในอำเภอต้าเหยา ซึ่งเป็นพื้นที่ทุรกันดารมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน มาตั้งแต่จบการศึกษาด้วยวัย 19 ปี การทำงานที่นี่เต็มไปด้วยความยากลำบากนานัปการ และเขาได้เริ่มทำงานในแผนกบรรเทาความยากจนมาตั้งแต่ปี 2012 หรือเมื่อราว 6 ปีก่อน
ขณะให้สัมภาษณ์กับสื่อจีน The Paper หลี่กล่าวว่า ตนรู้สึกประหลาดใจที่รูปถ่ายของเขากลายเป็นประเด็นบนโซเชียลมีเดีย พร้อมอธิบายว่าตนงานยุ่งมากจนไม่ได้ไปย้อมสีผมให้เป็นสีดำก่อนที่จะไปถ่ายรูป และจริงๆ แล้วเขาแทบไม่ได้ตระหนักเลยด้วยซ้ำว่าผมของเขามันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาตั้งแต่เมื่อไร
หลี่กล่าวว่า เมื่อเกิดกระแสเช่นนี้ขึ้น เขาก็หวังว่าประชาชนจะให้ความสนใจกับบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯ ผู้ซึ่งทำงานอย่างขยันขันแข็งในแนวหน้า และอยากให้ยอมรับและความเข้าใจการทำงานของพวกเขาเหล่านี้มากขึ้น
แม้การมีผมขาวในวัย 30 กว่า อาจจะเป็นเพียงเรื่องตลกสำหรับใครบางคน แต่ทว่าก็มีผู้ที่ไม่ได้ให้น้ำหนักและความสำคัญกับประเด็นด้านรูปลักษณ์ หากแต่เป็นภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐฯ วัย 38 รายนี้
“ต้าเหยาเป็นอำเภอหนึ่งที่ยากจนที่สุดของจีน แถมเมืองที่เขาทำงานอยู่นั้นยิ่งแย่เข้าไปอีก แต่เขาก็ทำงานที่นี่มานานถึง 6 ปีแล้ว เมื่อพิจารณาถึงภาระงานหนักทั้งหมดในการแก้ปัญหาความยากจนที่เขาได้ทำ เขาสมควรที่จะได้รับความเคารพจากพวกเราทุกคน” ผู้ใช้บัญชีเวยป๋อชื่อว่า @yuanhaizipingmingli กล่าว
“การทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐฯ ในระดับรากหญ้า เป็นเรื่องที่เหนื่อยยากมากจริงๆ มันไม่ง่ายเลยที่คนอื่นๆ จะจินตนาการได้ถึงความเครียดที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้ต้องเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ในท้องถิ่น” ผู้ใช้เวยป๋อชื่อ @Pitayamumuda กล่าว
ทั้งนี้ หลี่ระบุว่าตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปี 2017 มีผู้คนจำนวน 3,958 ราย ในอำเภอแห่งนี้ที่หลุดพ้นจากความยากจน และเป้าหมายในปีนี้คือการช่วยให้ชาวบ้านอีกอย่างน้อย 2,301 ราย ก้าวพ้นจากวังวนแห่งความยากจน
“สี จิ้นผิง” กล่าวปฏิรูปประเทศ พา 700 ล้านคนหลุดพ้นความจนคือ "ความมหัศจรรย์"