กระบะเมาซิ่งแซงแหลก! รถพุ่งเสยท้ายสิบล้อพังยับ คนขับชิ่งหายทิ้งเพื่อนนอนเจ็บในรถ

กระบะเมาซิ่งแซงแหลก! รถพุ่งเสยท้ายสิบล้อพังยับ คนขับชิ่งหายทิ้งเพื่อนนอนเจ็บในรถ

กระบะเมาซิ่งแซงแหลก! รถพุ่งเสยท้ายสิบล้อพังยับ คนขับชิ่งหายทิ้งเพื่อนนอนเจ็บในรถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 21 พ.ย. 61 ร.ต.ท.ปรัชญา ทองสุข รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ บนถนนสายเอเชีย 41 บริเวณหน้าวัดขุนกระทิงนอก ม.8 ต.ขุนกระทิง อ.เมือง จ.ชุมพร มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ จึงได้รุดมาตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพนเรนทรและชุดกู้ภัยสายชล

ในที่เกิดเหตุอยู่ข้างล่องใต้ พบรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 71-1631 สงขลา จอดเปิดไฟกะพริบอยู่ในเลนขวา ส่วนท้ายรถมีสภาพถูกชนแผ่นเหล็กปิดท้ายคัทซีและไฟท้ายพัง ห่างไปเล็กน้อยพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงินตอนครึ่ง ทะเบียน บพ 3091 ชุมพร สภาพด้านหน้าตั้งแต่กันชนจนถึงตัวเครื่องยนต์พังยับเยิน

โดยภายในรถมีกลิ่นเหล้าคลุ้ง และพบผู้บาดเจ็บ 2 คน เป็นชายทราบชื่อคือนายสุเรส กองเพ็ชร อายุ 44 ปี เลือดอาบเต็มใบหน้านอนเจ็บในภายในรถ โดยที่พื้นรถพบขวดเหล้าชนิดแบน ตกอยู่สภาพเหลืออยู่ครึ่งแบน ส่วนอีกรายเป็นหญิงทราบชื่อคือ น.ส.โศรยา แซ่เตี้ยว อายุ 20 ปี สภาพขาด้านขวาถูกอัดติดอยู่กับคอนโซล ร้องไห้ระงม เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งช่วยนำตัวทั้งสองออกมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลชุมพร

จากการสอบสวนนายพิชิต สุวรรณชิต อายุ 43 ปี คนขับรถบรรทุกได้ให้การว่า ตนเองขับรถบรรทุกสินค้ามาจากกรุงเทพฯ เพื่อนำไปส่งให้กับทางลูกค้า ที่ จ.สงขลา จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางขึ้นเนินเล็กน้อย มีรถบรรทุกขับอยู่เลนซ้ายสองคัน ตนเองจึงได้ขับรถแซงรถบรรทุกคันอื่นขึ้นมา จนจะพ้นคันที่สอง ก็ได้ยินเสียงโครมใหญ่จนรถสั่น ตนรู้ทันทีว่าถูกชนท้ายแล้ว จึงได้จอดรถลงมาดูก็พบว่ามีรถยนต์กระบะชนท้ายดังกล่าว

ในขณะที่นายรังสฤษฐ์ ทองคำ อายุ 47 ปี ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองได้ขับรถอยู่เลนขวา ได้มีรถยนต์กระบะขับมาด้วยความเร็วและวิ่งมาจี้ท้ายรถของตนเองเพื่อต้องการแซง ตนเองจึงเปิดไฟเข้าเลนซ้าย จนรถคันดังกล่าวแซงขึ้นไปก็เห็นว่าในรถมากันสามคนซึ่งมองเห็นไฟท้ายรถห่างไปไม่ถึง 300 เมตร ก็ดับหายไปท่ามกลางความมืด จนขับมาถึงก็พบรถกระบะที่แซงตนมาชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อแล้ว จึงได้ลงมาดูก็พบในรถมีคนบาดเจ็บอยู่ในรถ ส่วนเบาะนั่งขวาซึ่งเป็นตำแหน่งคนขับรถไม่พบใคร

เจ้าหน้าที่จึงได้สอบปากคำคนขับและพยานแวดล้อมไว้เป็นการเบื้องต้น และจะไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง เพื่อหาข้อเท็จจริง รวมถึงคนขับรถที่หายตัวไปเป็นใคร เพื่อสรุปสำนวนในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในคดีนี้ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook