ศุลกากรแม่สอดจับอีกแล้ว “อัญมณี-พืชไร่” เลี่ยงภาษีมูลค่าร่วม 2 ล้าน
( 21 พ.ย. 61 ) ที่ด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก พล.ต.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร -นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด ชายแดนไทย-เมียนมาร์ อ.แม่สอด จ.ตาก - พ.อ.อาสาฬหะ พูลสุวรรณ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 แม่สอด - พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก(ด่านแม่สอด) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 346 -ปลัดอำเภอแม่สอด
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมสินค้าหนีภาษีจำนวนมาก ประกอบด้วย อัญมณีเครื่องประดับ ประกอบด้วย พลอย ทับทิม หยก มรกตชนิดต่างๆ รวม 43 รายการ รวมทั้งสินค้าเครื่องสำอาง บุหรี่ต่างประเทศ โทรศัพท์มือถือ และสินค้าพืชไร่ประกอบด้วย หอมแดงจำนวนกว่า 800 กระสอบ และข้าวโพดจำนวนหนึ่ง มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
พล.ต.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ ผบ.กกล.นเรศวร กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลให้หน่วยทหารบูรณาการกำลังทั้งจากกองกำลังนเรศวร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ตชด.และฝ่ายปกครองร่วมกันป้องกันชายแดนเข้มงวดตามนโยบายเร่งด่วน 3 เดือน คือ ตั้งแต่พฤศจิกายน-มกราคม 62 ในการปราบปรามยาเสพติดและอาวุธสงคราม
และเมื่อกลางดึกเราสามารถจับกุมอัญมณีเครื่องประดับที่นำออกนอกพื้นที่ได้จำนวนมากรวมทั้งสินค้าพืชไร่มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท สำหรับสินค้าพืชไร่นั้น อาทิ หัวหอมแดง และข้าวโพดอีกจำนวนมาก รวมทั้งมีสินค้าอื่นๆ
นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามนโยบายของอธิบดีกรมศุลกากร สั่งให้ด่านศุลกากรแม่สอด เข้มงวดสินค้าหลบหนีภาษีอาการ เพื่อทำให้การจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพ จึงได้บูรณาการร่วมกับฝ่ายความมั่นคงจนนำมาซึ่งการจับกุมสินค้าหลบเลี่ยงภาษีได้จำนวนมาก มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวอีกว่า ผลจากการเข้มงวดตรวจเข้มดังกล่าว ทำให้สามารถจับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากรดังนี้ 1.สินค้าเกษตรประเภท หอมหัวใหญ่บรรจุกระสอบ จำนวน 50 กระสอบ น้ำหนัก 2,500 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย และเมล็ดข้าวโพด จำนวน 45 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 1,500 กิโลกรัม
2. วัตถุคล้ายพลอยและเครื่องประดับทำด้วยวัตถุคล้ายพลอย จำนวน 43 รายการ พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย 3.บุหรี่ต่างประเทศ ยี่ห้อ Red Ruby, ยี่ห้อ Winston, ยี่ห้อ TEXAS 5 รวมจำนวน 23,800 มวน (119 Cartons) ไพ่ จำนวน 2,160 สำรับ และสินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO จำนวน 3 เครื่อง, แป้งทานาคา, บุหรี่พม่า, รถเข็นเด็กและรถวีลแชร์ รวมมูลค่าของกลาง ทั้งสิ้นประมาณ 1.5 ล้านบาท
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมของเถื่อนและผู้ต้องหาได้ที่บริเวณโกดังร้าง ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก รวมไปถึงด่านจุดตรวจห้วยหินฝน และริมตลิ่งแม่น้ำเมยใกล้สะพานมิตรภาพ ไทย – เมียนมา และจุดข้ามแดนธรรมชาติ บ้านน้ำดั้น ตำบลวาเลย์ อำเภอพบพระ
ซึ่งของกลางทั้งหมดดังกล่าวเป็นของที่มีเมืองกำเนิดจากต่างประเทศ นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากร จึงเป็นสิ่งของอันพึงต้องริบตามมาตรา 166 เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาจมีความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 246 ประกอบมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางทั้งหมดส่งงานคดีฯ ด่านศุลกากรแม่สอด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ