พบ “ลูกเสือปลา” 2 ตัวในป่าลึก-นำส่งมอบ สนง.อนุรักษ์สัตว์ป่าเผยใกล้สูญพันธุ์

( 21 พ.ย. 61 )  ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านเลขที่ 84 หมู่ที่ 7 ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ หลังได้แจ้งจาก นางสาวพจนีย์   อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว หลังจากที่หลานเขย คือ นายอานนท์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านใน ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ที่ได้รับจ้างถางป่าสวนทุเรียนในป่าลึก ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างอำเภอลับแลและจังหวัดแพร่ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร

โดยได้พบ "เสือปลา" จำนวน  2 ตัว ในโพรงไม้ อายุประมาณ 2 สัปดาห์  โดยมีรูปร่างคล้ายๆ แมวบ้านกับแมวป่าผสมกัน ลำตัวอ้วนหนา บึกบึน หัวโตและกว้าง กระบอกปากค่อนข้างยาว ลวดลายคล้ายแมวดาว ขนมันวาวหยาบสั้นสีเทาอมน้ำตาล มีเส้นและจุดรีๆ  สีน้ำตาลพาดตามแนวยาวของลำตัวทั่วทั้งตัว 

นางสาวพจนีย์ เล่าให้ฟังว่า นายอานนท์  หลานเขยได้ออกไปรับจ้างถางป่าในสวนทุเรียน ขณะถางป่าสวนทุเรียนในป่าลึกอยู่นั้นได้ยินเสียงร้องจึงได้เดินตามหาดูปรากฎพบเสือปลา 2 ตัว มีลักษณะคล้ายแมวป่า ที่หลบอยู่ในโพรงไม้ แต่ตนก็ได้ปล่อยไว้แต่แม่ของมันก็ไม่ได้มา

ซึ่งตนรอตั้งแต่เช้าที่เจอในครั้งแรกจนค่ำก็ยังไม่มาหา จึงตัดสินใจนำกลับมาบ้านให้ตนของซึ่งเป็นน้าภรรยา เพราะกลัวว่าจะอดนมตาย และต่อมาจึงได้แจ้งให้ทาง “เพจอุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง”  มาทำข่าวพร้อมสื่อพร้อมมอบให้ เพจอุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง นำไปมอบให้ผู้เกี่ยวข้อง 

ในเวลาต่อตัวแทนมา เพจอุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง ได้นำเสือปลาทั้ง 2 ตัว มามอบให้ทาง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อส่งต่อไปยัง มอบให้ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เพื่อปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติ

เพราะทราบว่า "เสือปลา" เป็นหนึ่งในสัตว์คุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 หากลักลอบนำมาเลี้ยงมีความผิดทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญา ดังนี้

“ห้ามครอบครองสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่สัตว์ที่ครอบครองเป็นสัตว์ที่มาจากการเพาะพันธุ์ที่ไม่ถูกต้อง จะต้องโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะจัดเป็นสัตว์มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในเร็ววัน”