ชาวบ้านหนองบุญมากสุดช้ำ ถูกกลุ่มคนร้ายบุกขโมยถอน "มันสำปะหลัง" หายหลายตัน

(22 พ.ย. 61) นางสกุล พาขุนทด กำนันตำบลหนองไม้ไผ่ พร้อมผู้ใหญ่บ้านสระมะค่า นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของมันสำปะหลังที่กำลังให้ผลผลิตรอการเก็บเกี่ยว ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านเกือบ 5 กิโลเมตร

พบว่าไร่มันสำปะหลังถูกกลุ่มคนร้ายขโมยถอนเอาผลผลิตไปประมาณ 1 งาน ประเมินผลผลิตที่ถูกขโมยไปกว่า 2.5 ตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเกือบ 1 หมื่นบาท

โดยรูปแบบของการถอนมันนั้นดูเป็นการทำแบบมืออาชีพ และมีการเตรียมการพร้อมนำรถบรรทุกเข้ามาใส่หัวมันพร้อมสรรพ คาดว่าน่าจะร่วมกันเป็นขบวนการมีคนลงมือไม่ต่ำกว่า 4 คน

นอกจากนี้บริเวณไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านหนองตะไก้ หมู่ที่ 8 ต.หนองตะไก้ ซึ่งอยู่ห่างไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ก็มีไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านถูกขโมยถอนผลผลิตในลักษณะคล้ายคลึงกัน

ซึ่งชาวบ้านคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนร้ายกลุ่มเดียวกัน สร้างความกังวลใจให้กับชาวบ้านในแถบนั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดเจ้าของไร่มันสำปะหลังทั้ง 2 แปลงที่ถูกขโมยถอนมัน ได้เข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบุญมากแล้ว

ขณะที่ผู้นำชุมชนก็ได้รายงานไปยังฝ่ายปกครองอำเภอให้ออกประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่แล้วเช่นเดียวกัน โดยทางนายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย อำเภอหนองบุญมากและ พ.ต.อ.ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองบุญมาก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งออกหาข่าว

เพื่อติดตามตัวคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นการด่วนแล้ว เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความเดือดร้อนและความกังวลใจให้กับเกษตรกรในพื้นที่อย่างมาก

จากการสอบถามนายเที่ยง อ่องพิมาย หนึ่งในเจ้าของไร่มันสำปะหลังที่ถูกขโมยผลผลิต บอกว่า มันสำปะหลังดังกล่าวนายจ้างปลูกมาแล้วประมาณ 8 เดือน กำลังให้ผลผลิตพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว แต่เนื่องจากอยู่ห่างจากหมู่บ้านค่อนข้างไกล จึงไม่ได้เข้าไปดูบ่อยนัก

กระทั่งเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา มีชาวบ้านไปพบเห็นไร่มันสำปะหลังถูกถอนๆ ไปเพียงหย่อมเดียว ดูผิดปกติ จึงเข้าไปตรวจสอบ และก็มาพบว่ามันสำปะหลังถูกขโมยถอนไปแล้วดังกล่าว ซึ่งตนเองอยากฝากไปถึงหัวขโมยว่า สิ่งที่ได้ทำนั่นสร้างความเดือดร้อนให้กลับคนอื่น อยากให้หยุดเสีย อย่าไปทำกับคนอื่นอีก

ทางด้าน นายฉะอ้อน รักกลาง ผู้ใหญ่บ้านหนองตะไก้ กล่าวว่า เมื่อได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ได้ทำการประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่ให้ระวังและดูแลผลผลิตทางการเกษตรของตนเองด้วยความระมัดระวัง

โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ห่างจากแหล่งชุมชน เพราะในช่วงนี้ราคามันนั้นสูงมาก และอยากฝากกลุ่มมิจฉาชีพที่ก่อเหตุให้หยุดพฤติกรรมนี้เสีย เพราะนอกจากเพราะนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแล้ว ตัวเองก็อาจจะเดือดร้อนและเจ็บตัว เพราะนอกจากจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ชาวบ้านจะเกิดความโมโหและอาจจะใช้ความรุนแรงได้