กลัวที่ไหน! นักท่องเที่ยวปิดสะพานกลางเชียงใหม่ลอยโคม ไม่สนเป็นเขตห้ามปล่อย มีโทษจำ-ปรับ

กลัวที่ไหน! นักท่องเที่ยวปิดสะพานกลางเชียงใหม่ลอยโคม ไม่สนเป็นเขตห้ามปล่อย มีโทษจำ-ปรับ

กลัวที่ไหน! นักท่องเที่ยวปิดสะพานกลางเชียงใหม่ลอยโคม ไม่สนเป็นเขตห้ามปล่อย มีโทษจำ-ปรับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากพากันปิดถนนบริเวณสะพานนวรัฐ กลางเมืองเชียงใหม่ เพื่อนำโคมลอยมาปล่อยกันจนเต็มพื้นที่ ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยค่ำคืนนี้ถือเป็นวันแรกของประเพณีเดือนยี่เป็ง หรือ ลอยกระทง ของจังหวัดเชียงใหม่ประจำปี 2561 ที่มีการผ่อนผันให้ปล่อยโคมลอยได้ตั้งแต่เวลา 19.00 – 01.00 น. ซึ่งการปล่อยโคมลอยจะต้องยื่นขออนุญาตและได้รับอนุญาตจากอำเภอหรือท้องถิ่น

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถออกประชาสัมพันธ์บริเวณสะพานนวรัฐ ซึ่งมีป้ายข้อความห้ามจุดประทัดยักษ์ จุดพลุ และ ห้ามปล่อยโคมลอยโดยเด็ดขาด รวมทั้งประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงแต่นักท่องเที่ยวก็ไม่สนใจ ยังคงปักหลักปล่อยโคมลอยกันอย่างสนุกสนาน

โดยประเพณีเดือนยี่เป็ง หรือลอยกระทงในปี 2560 ที่ผ่านมา บริเวณสะพานนวรัฐเป็นจุดผ่อนผันที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้ขออนุญาตให้เป็นพื้นที่ปล่อยโคมลอยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่เกิดปัญหาประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนเข้ามาเพราะได้รับความเดือดร้อนจากโคมลอยที่ตกใส่หลังคาบ้านพักและร้านค้า ทำให้ปีนี้ นายณัฐฐ์ชูเดช วิริยะดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้ประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือห้ามจำหน่ายและปล่อยโคมลอยในพื้นที่สาธารณะอย่างเด็ดขาด หากพบจะจับกุมทั้งคนขายคนปล่อย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ยกเว้นพื้นที่เอกชนหรือโรงแรม ที่มีการขออนุญาตปล่อยโคมเท่านั้น

สำหรับตัวเลขการขออนุญาตปล่อยโคมลอยในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ ในวันที่ 22 - 23พฤศจิกายนนี้ มีจำนวน 16,240 ลูก ส่วนใหญ่เป็นโรงแรม ร้านอาหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขณะที่ตัวเลขการขออนุญาตปล่อยโคมลอยทั้งจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 22 – 23 พฤศจิกายน คาดว่าไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นลูก

ส่วนบรรยากาศในประเพณียี่เป็งคืนนี้เป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณริมน้ำปิงหน้าสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้มีการปล่อยกระทงสายที่ทำจากกาบกล้วย มีเทียนปักไว้พร้อมจุดปล่อยลงในแม่น้ำปิงจำนวน 1 หมื่นดวง และคืนพรุ่งนี้ (23 พฤศจิกายน) จะมีการปล่อยกระทงสายอีก 1.6 หมื่นดวง เพื่อเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา และเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของชาวล้านนา ทำให้ในแม่น้ำปิง ระยิบระยับเต็มไปด้วยแสงเทียนจากกระทงสาย และกระทงที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวนำมาลอย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook