แม่ร้องลูกสาวตายกะทันหัน หลังโดนฉีดยารักษาอาการแพ้กุ้งเต้น

แม่ร้องเรียนสื่อมวลชน หลังลูกสาวกินกุ้งเต้นแล้วแพ้ เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในปทุมธานี ถูกฉีดยา 3 เข็ม สุดท้ายเสียชีวิต

นางบุญยืน อายุ 50 ปี ชาวตำบลคลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้ร้องเรียนมาที่ผู้สื่อข่าวหลังจากที่ นางสาววิภาพร อายุ 25 ปี ลูกสาวได้เสียชีวิตลงหลังจากที่กินกุ้งเต้นและมีอาการแพ้ปากบวมและเข้าโรงพยาบาล โดยแพทย์ได้ฉีดยาเข้าไป 3 เข็ม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

นางบุญยืน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ลูกสาวตนเองได้ไปซื้อกุ้งเต้นที่ตลาด เมื่อกินเข้าไปก็เกิดอาการแพ้ ต่อมาเวลา 21.00-22.00 น. อาการแพ้ได้ลดลง กระทั่งถึงช่วงเช้าลูกสาวตนก็ยังมีอาการปากบวม ตนจึงให้ลูกไปหาหมอเพราะว่ามีประกันสังคมอยู่ โดยไปที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านรังสิต กระทั่งแพทย์ได้วัดความดันพร้อมกับนำเข้าห้องฉีดยาจำนวน 2 เข็ม โดยแพทย์แจ้งกับญาติว่าคนไข้ได้รับการฉีดยาและต้องนอนรอดูอาการ

จนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ตนเห็นลูกสาวยังไม่ออกมา จึงเปิดประตูเข้าไปดูเห็นลูกสาวนอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ แต่ยังไม่ได้ฉีดยา กระทั่งแพทย์ได้บอกกลับมาว่าจากการเช็คสิทธิ์ประกันสังคม พบว่าผู้ป่วยไม่ได้มีสิทธิ์การรักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และถามแม่ว่าจะสามารถสำรองจ่ายค่ารักษาหรือไม่ ตนจึงตอบตกลง

หลังจากนั้นแพทย์จึงบอกให้ญาติออกไปรอด้านนอก พอผ่านไป 3-5 นาที แพทย์และพยาบาลได้ไปเข็นเครื่องช่วยหายใจมา เมื่อตรวจสอบตนเห็นลูกสาวมีอาการทุรนทุราย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข็นไปห้องไอซียู ซึ่งตนไม่ทราบเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว กระทั่งแพทย์แจ้งว่า ลูกสาวตนเองมีภาวะหัวใจโต หัวใจล้มเหลว น้ำท่วมปอดหมอฉีดยาไป 2 เข็ม โดยเข็มที่ 3 เป็นยากระตุ้นหัวใจ กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2561 เวลา 06.30 น.

ซึ่งตนเองรับไม่ได้เพราะลูกไม่ได้มีอาการล้มหมอนนอนเสื่อถึงขั้นที่คาดว่าจะมาเสียชีวิต หลังลูกสาวเสียชีวิตได้ส่งตัวไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยแพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจล้มเหลว รอผลทางห้องปฏิบัติการ จากนั้นตนเองจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพราะติดใจการเสียชีวิตของลูก ประกอบกับไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ แต่ทุกอย่างเงียบสนิท

หลังจากลูกสาวเสียชีวิตตนเองต้องรับภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเพราะปกติลูกสาวทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว หาเงินมาจุนเจือครองครัวและเลี้ยงลูกสาววัย 5 ขวบ ที่กำลังเจริญเติบโต หลานสาวร้องถามหาแม่ทุกวัน ว่าแม่ไปไหนทำไมไม่กลับมา ซึ่งตนเองอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้ที่มีความรู้ช่วย