ชีวิตช้ำยังไม่พอ หนุ่มพิการโอด ข้าราชการสาวโกงเบี้ยคนพิการนับแสน

ชีวิตช้ำยังไม่พอ หนุ่มพิการโอด ข้าราชการสาวโกงเบี้ยคนพิการนับแสน

ชีวิตช้ำยังไม่พอ หนุ่มพิการโอด ข้าราชการสาวโกงเบี้ยคนพิการนับแสน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ข้าราชการสาวไม่กลัวบาปกรรม ตีหน้าซื่อเป็นคนดีมาช่วยเหลือ โกงเงินเบี้ยคนพิการเกือบ 2 แสนบาท สืบประวัติที่แท้มีประวัติติดหนี้รุงรัง

(23 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สนิท นุ้ยพิน พนักงานสอบสวน สภ.หลังสวน ได้รับแจ้งจาก นายเจนณรงค์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านหนองเทา หมู่ที่ 5 ต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ร้องเรียนว่า ถูกข้าราชการฝ่ายการคลังสังกัด อบต.แห่งหนึ่ง ใน อ.ละแม จ.ชุมพร ฉ้อโกงเงินช่วยคนพิการไปจำนวนมาก

นายเจนณรงค์ กล่าวว่า ตนเคยประสบอุบัติเหตุทางถนน เมื่อปี 2559 ทำให้เกิดความพิการแขนและขาลีบ ไม่สามารถเดินได้และไม่สามารถใช้แขนด้านซ้ายได้ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ แพทย์ได้ทำเอกสารยืนยันความพิการเพื่อให้นายเจนณรงค์ได้ทำบัตรผู้พิการ จนได้รับเงินเบี้ยความพิการเดือนละ 600 บาท ในเขตพื้นที่ อบต.ท่ามะพลา อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ต่อมา ตนได้รับการช่วยเหลือจาก "นางสาว จ." ซึ่งเป็นเพื่อนของญาติที่คุ้นเคยกัน และรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ อบต.แห่งหนึ่งใน อ.ละแม จ.ชุมพร อีกทั้งเป็นเจ้าหน้าที่ทางด้านการเงินการคลังของ อบต.แห่งนั้น จึงทำให้ไว้เนื้อเชื่อใจ นางสาว จ. ทราบเรื่องความเป็นมา ในความพิการของตนมาโดยตลอด จึงอาสาในการทำเรื่องขอเงินชดเชยจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพร

นางสาว จ. ยังได้อาสาเป็นผู้ช่วยนำนายเจนณรงค์เดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลชุมพร โดยทุกครั้งตนจะจ่ายค่าตอบแทนให้เสมอ ทำให้เห็นว่าเป็นเพื่อนมนุษย์ที่มีน้ำใจให้ความช่วยเหลือจึงเกิดความไว้วางใจแม้จะได้รับการเตือนจากญาติๆ ว่าเป็น นางสาว จ. เป็นคนไม่ดี ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว

กระทั่งเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา นางสาว จ. ได้บอกกับนายเจนณรงค์ว่า มีเงินจำนวน 159,000 บาท โอนเข้ามาในบัญชีของนายเจนณรงค์ และอ้างว่าเงินจำนวนนั้นเป็นของ นางสาว จ. ที่ไปกู้ยืมมาและผู้ให้กู้โอนมาให้ นายเจนณรงค์ถามว่าทำไมไม่โอนเข้าบัญชีของ นางสาว จ. โดยตรง

นางสาว จ. อ้างว่าเพราะมีปัญหาหนี้สินบัญชีจึงถูกอายัด นายเจนณรงค์ถามว่าทำไมจึงไม่ให้ผู้ให้กู้โอนเงินเข้าบัญชีลูกสาวนางสาว จ. บอกว่าไม่ต้องการให้ลูกรับรู้ ด้วยความที่ไว้วางใจจึงเชื่อคำพูดของนางสาว จ. และเดินทางไปเบิกเงิน 159,000 บาทที่ธนาคารในวันถัดมา และนำเงินมามอบให้ นางสาวจ.

ต่อมาในวันที่ 27 ตุลาคม นายเจนณรงค์ได้ติดต่อสอบถามไปที่เจ้าหน้าที่ อบต.ท่ามะพลา ถึงเรื่องเงินช่วยเหลือคนพิการอันเกิดจากอุบัติเหตุจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพร ได้การว่าสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพรได้โอนเงินเข้ามาให้กับนายเจนณรงค์ในบัญชีของนายเจนณรงค์แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 กันยายน จึงทำให้รู้ว่าโดน นางสาว จ. หลอกเอาเงินไปเสียแล้ว

กระทั่งให้เพื่อนติดต่อสอบถามไปยัง นางสาว จ. พร้อมกับได้บันทึกเสียงการพูดคุยทางโทรศัพท์ ซึ่ง นางสาว จ. ก็ยอมรับว่าได้หลอกให้นายเจนณรงค์เป็นผู้เบิกเงินให้กับ นางสาว จ. จริง และยอมรับว่าเงินจำนวนนั้นเป็นของนายเจนณรงค์ ไม่ใช่เงินของนางสาว จ.

นายเจนณรงค์ จึงขอเงินจำนวนดังกล่าวคืน แต่นางสาว จ. ก็ผลัดผ่อนมาตลอด จนครั้งสุดท้ายนายเจนณรงค์บอกว่าถ้าไม่นำมาคืนภายใน ในวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็จะแจ้งความดำเนินคดีถึงเวลา นางสาว จ. ก็ไม่เอาเงินมาคืน

นายเจนณรงค์ กล่าวว่า ด้วยความยากลำบากในการพูด เนื่องจากมีอาการทางสมองด้วยว่า “ชีวิตของตน พ่อแม่ เสียชีวิตหมดแล้ว ไม่มีลูก และภรรยา อาศัยข้าวของพี่สาวที่คอยเลี้ยงดู และให้เงินไว้ใช้ เดือนละ 1,000-2,000 บาทเท่านั้น เมื่อทราบว่ามีเงินช่วยคนพิกา 159,000 บาท ก็ตั้งใจว่าจะให้ไว้กับพี่สาว เพื่อจะได้ช่วยบรรเทาความยากจนในครอบครัว และจะได้ไว้เลี้ยงดู ก่อนจะตายจากกัน"

นายเจนณรงค์ ยังบอกอีกว่า เงินจำนวนนี้ตนสามารถใช้ได้นานถึง 10 ปี แต่ไม่นึกว่าจะมีข้าราชการระดับสูงมาโกงคนพิการอย่างตน เคราะห์ดีที่ยังได้เพื่อนๆ มาช่วยติดตามทวงถาม และนำมาแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดี และจะร้องเรียนไปยังท้องถิ่นจังหวัดชุมพร เพื่อให้ดำเนินการทางวินัยข้าราชการด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความในข้อหา ฉ้อโกง และจะได้มีหมายเรียก นางสาว จ. ถ้าไม่มา ก็จะออกหมายจับต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook