เคอิโงะเฮ-พ่อยุ่นนัดคุยผ่านเว็บแคม
เคอิโงะ ได้เฮแล้ว พ่อชาวญี่ปุ่นตอบรับจะโทร.มาคุยด้วยผ่านระบบเว็บแคมนัดเจอกันที่สถานทูต ญี่ปุ่นในประเทศไทย 22 พ.ค.นี้ เวลา 5 โมงเย็น โดยมีล่ามคอยแปลถ้อยกระทงความให้พร้อม ทางผวจ.พิจิตรเตรียมรถรับส่งและที่พักพร้อม เพื่อพาหนูน้อยเข้ากรุงไปคุยโทรศัพท์กับพ่อตามนัด จากนั้นจะมีการแสดงลิเกแก้บน ทางด้าน เคอิโงะ ดีใจสุดๆ เตรียมบอกว่ารัก-คิดถึงพ่อ อยากมอบตุ๊กตาตัวโปรดให้พ่อเป็นของขวัญ เผย คัตซูมิ มีเงื่อนไข ระหว่างคุยกับลูกชาวไทย ห้ามสื่อร่วมรับฟังเด็ดขาด ถือเป็นการคุยส่วนตัวระหว่างพ่อกับลูก
จากกรณีของด.ช.เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ ถือรูปออกตามหาตัวนายคัตซูมิ ซาโต พ่อชาวญี่ปุ่น จนกลายเป็นข่าวโด่งดังสะเทือนอารมณ์คนไทยนั้น เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 พ.ค. นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.พิจิตร พร้อมด.ช.เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ พร้อมด้วยนางปัทมา จตุพิศ ป้าของด.ช.เคอิโงะ แถลงข่าวที่บริเวณห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพิจิตร ว่า หลังจากประสานงานกับสถานทูตญี่ปุ่น ในกรุงเทพฯ เพื่อนัดวันให้ด.ช.เคอิโงะได้พบกับนายคัตซูมิ ซาโต ผู้เป็นพ่อ ตอนนี้สามารถกำหนดวันได้แล้ว คือวันที่ 22 พ.ค. ที่จะถึงนี้
นายสมชัย กล่าว่า ตลอด 10 วันที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณทุกคนในสังคมไทย และที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ด้วยเช่นกัน โดยให้ราชเลขาฯ ติดตามความคืบหน้าทุกระยะ รวมถึงบุคคลสำคัญในรัฐบาลก็ให้ความสำคัญในเรื่องของด.ช.เคอิโงะ
"ล่าสุด ผมได้รับหนังสือด่วนที่สุดจากสถานทูตญี่ปุ่นในไทย แจ้งมาแล้วว่าพ่อของด.ช.เคอิโงะ ยอมรับในตัวด.ช.เคอิโงะว่าเป็นบุตรในสายโลหิต และเป็นทายาทสมบูรณ์ตามนิตินัย เนื่องจากพ่อและแม่มีการจดทะเบียนสมรสกันถูกต้อง รวมถึงตอนให้กำเนิดด.ช.เคอิโงะ พ่อชาวญี่ปุ่นก็ได้รับรองบุตรในการแจ้งเกิดในคราวนั้นด้วย ถ้าด.ช.เคอิโงะในตอนนี้หรือในอนาคต จะขอสัญชาติญี่ปุ่นก็มีสิทธิ์จะทำได้ตามที่กฎหมายกำหนด ในส่วนของการติดต่อให้ลูกได้เจอกับพ่อชาวญี่ปุ่นนั้น พ่อของด.ช.เคอิโงะ ก็ประสานกับสถานทูตญี่ปุ่นในไทยทุกระยะ แจ้งว่าพร้อมที่จะโทรศัพท์หรือใช้เว็บแคม หรือใช้เทคโนโลยีทางการสื่อสาร พูดคุยกับลูกชายผ่านล่ามตลอดเวลาได้อีกด้วย แต่มีกฎกติกาขอร้องว่าขอให้การพูดคุยกับลูกเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่อยากเป็นข่าว ซึ่งทางราชการที่เป็นผู้ประสานงานก็ต้องปฏิบัติตามคำขอดังกล่าว" ผวจ.พิจิตรกล่าว
นายสมชัย กล่าวอีกว่า เร็วๆ นี้ ด.ช.เคอิโงะจะมีความสุขด้วยการได้เห็นหน้าพ่อและได้โทรศัพท์คุยกัน อีกทั้งจะมีชีวิตที่สมบูรณ์มีพ่อบังเกิดเกล้าอย่างแน่นอน แต่ท้ายที่สุดต้องขอร้องสื่อมวลชน ต้องช่วยปฏิบัติไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลตามคำร้องขอของพ่อด.ช. เคอิโงะ ในส่วนของตน ได้อำนวยความสะดวกให้กับด.ช.เคอิโงะและนางปัทมา โดยได้จัดเตรียมรถรับส่ง และหาที่พักให้ ระหว่างไปรอรับโทรศัพท์จากนายคัตซูมิที่กทม.
รายงานข่าวล่าสุดเปิดเผยว่า นายคัตซูมิจะขอนัดคุยกับด.ช.เคอิโงะทางโทรศัพท์หรือทางเว็บแคม ผ่านล่ามของสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทยในวันที่ 22 พ.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. ของเมืองไทย โดยเน้นย้ำมาว่าขณะอยู่ในห้องพูดคุย ห้ามสื่อมวลชนร่วมรับฟังหรือถ่ายภาพข่าว เนื่องจากมีเรื่องส่วนตัวจะคุยกันระหว่างพ่อกับลูก
ทางด้านด.ช.เคอิโงะ กล่าวว่า ดีใจมากที่จะได้พูดคุยกับพ่อ สิ่งแรกที่ตนอยากจะพูดโทรศัพท์บอกกับพ่อคัตซูมิ คือ ผมรักพ่อ คิดถึงพ่อ อยากจะกอดพ่อ และอยากเห็นหน้า อยากจะมอบตุ๊กตาตัวโปรดที่ตนเองรักมากเป็นของขวัญกับพ่อ และตนสัญญากับพระราชินีที่พระองค์ทรงห่วงใยตนและครอบครัว จะเป็นคนดีของสังคม ไม่พูดจาโกหก จะตั้งใจเรียน เพราะตั้งความหวังไว้ว่าอยากเรียนเป็นหมอ เพื่อรักษาช่วยเหลือคนจน นอกจากนี้ จะพยา ยามหัดพูดภาษาญี่ปุ่น เพื่อจะได้คุยกับพ่อ ขณะนี้พูดได้ 1 คำแล้วคือ คอนนิชิวะ แปลว่าสวัสดี
ส่วนนางปัทมา ผู้เป็นป้า กล่าวว่า ดีใจที่หลานจะได้เจอหน้าพ่อ แต่ขอย้ำว่าด.ช.เคอิโงะคงต้องใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ส่วนอนาคตจะขอสัญชาติญี่ปุ่นหรือไม่ ต้องให้โตกว่านี้หรือบรรลุนิติภาวะตัดสินใจได้เองก่อน เป็นเรื่องของอนาคต ไม่อยากกังวลถึง คิดแค่พรุ่งนี้ให้เจอหน้าพ่อ เลิกหายงอแงตั้งใจเรียนแค่นี้ก็พอใจแล้ว ส่วนเรื่องทรัพย์สินเงินทองคงไม่ไปยุ่งกับพ่อเขา เพราะทุนการศึกษาที่สมาคมชาวพิจิตร ผู้มีจิตเมตตา ผวจ.พิจิตร รวมถึงเหล่ากาชาดหยิบยื่นให้ สมทบกับรายได้จากการทำมาหากินทุกวัน ก็พร้อมจะส่งหลานเรียนได้แล้ว ไม่ต้องเดือดร้อนถึงพ่อเขา ที่ผ่านมาขอกราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนาง เจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยให้ราชเลขาฯ โทรศัพท์ถามสารทุกข์สุกดิบไม่ขาดสาย อีกทั้งพี่น้องชาวไทยที่ห่วงอาทรติดตามข่าวมาโดยตลอด หลังด.ช.เคอิโงะได้เจอกับพ่อแล้ว ก็คงจะได้กลับมาตั้งใจเรียน โตขึ้นเป็นคนดีของสังคม ตัวด.ช.เคอิโงะจะ มีความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อบังเกิดเกล้าในอนาคต อย่างไร ก็ขึ้นอยู่ที่สายสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกที่จะเกิดขึ้นในวันต่อไป ตอนนี้ไม่คิดอะไรแล้ว ขอให้หลานมีความสุขก็พอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ด.ช.เคอิโงะไปเรียนหนังสือตามปกติ ที่โรงเรียนอนุบาลท่าหลวงสงเคราะห์ อ.เมือง จ.พิจิตร ชั้นป.4 ห้อง 4/1 แต่พอทราบข่าวว่า พ่อติดต่อผ่านสถานทูตมาแล้วว่าจะโทรศัพท์มาคุยด้วย ถึงกับออกอาการตื่นเต้นนั่งเรียนไม่สงบสุข แถมคุยฟุ้งกับเพื่อนๆ ว่าตนเองมีพ่อแล้ว ถ้าเจอพ่อก็จะมอบตุ๊กตาที่เตรียมเอาไว้ให้เป็นของขวัญ อีกทั้งจะชวนพ่อมาเที่ยวพิจิตรอีกด้วย
นายสมชัยให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ตอนนี้เตรียมจัดหาลิเก ซึ่งอาจจะเป็นลิเกโอท็อปของพิจิตร ซึ่งมีหลายคณะ มาเล่นแก้บนให้กับหลวงพ่อเพชร เพราะที่ผ่านมา ด.ช.เคอิโงะได้ไปอธิษฐานกับหลวงพ่อเพชร ขอให้ได้เจอพ่อ ขณะนี้ฝันของด.ช.เคอิโงะใกล้แค่เอื้อมแล้ว โดยหลังจากด.ช.เคอิโงะ กลับจากสถานทูตญี่ปุ่น เราแก้บนอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้ใจบุญจะออกเงินค่าจ้างลิเกให้
ทางด้านนายประจักร วัฒนกุล สาธารณสุขจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ด.ช.เคอิโงะเป็นเด็กฉลาด แต่ช่วงนี้เกรงว่าจะปรับตัวไม่ทัน อยากฝากผู้สื่อข่าวทุกคนว่าจะเขียนข่าวอะไรควรระวัง เพราะธรรมเนียมประเทศญี่ปุ่นกับไทย หลายอย่างค่อนข้างต่างกัน เรื่องต่างๆ ที่เขาจะดูแลกันอย่างไรก็เป็นเรื่องของครอบครัว ควรที่จะให้ดูแลกันอย่างปกติ โดยที่ไม่มีคนอื่นเข้าไปแทรกแซงชีวิตในครอบครัวของเขา