ดราม่าทวงคืนโทรศัพท์กับแท็กซี่ ตร.ออกโรงยืนยันลงบันทึกประจำวันให้

ดราม่าทวงคืนโทรศัพท์กับแท็กซี่ ตร.ออกโรงยืนยันลงบันทึกประจำวันให้

ดราม่าทวงคืนโทรศัพท์กับแท็กซี่ ตร.ออกโรงยืนยันลงบันทึกประจำวันให้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตร.สภ.กระทุ่มแบน ชี้แจงยืนยันลงบันทึกประจำวัน เหตุสาวลืมมือถือบนรถแท็กซี่แล้ว บาดแผลมาจากการหกล้มจริง แต่โพสต์เล่าอีกมุมที่ไม่บอกความจริงทั้งหมด

จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เล่าถึงเหตุการณ์ระหว่างนั่งแท็กซี่จากซอยสุคนธวิท 20 จ.สมุทรสาคร แล้วได้ลืมโทรศัพท์มือถือไว้บนรถแท็กซี่ จึงพยายามโทรติดต่อเพื่อขอรับคืน แต่ทางแท็กซี่กลับพูดจาไม่ดี พร้อมกับปิดเครื่องใส่ จึงได้ใช้แอปพลิเคชั่นส่งเสียงและส่งข้อความบอกว่าจะแจ้งตำรวจ

ทางแท็กซี่จึงติดต่อกลับมาและนัดเจอ เพื่อคืนโทรศัพท์มือถือ จึงไปพร้อมกับตำรวจสายตรวจ เมื่อแท็กซี่เห็นกลับพยายามขับรถหลบหนี ตนจึงเคาะกระจกรถและพยายามเปิดประตู เพื่อให้แท็กซี่ลงมาพูดคุยเจรจา แต่แท็กซี่ได้ขับรถลากไปกับพื้นถนน จากนั้นจึงเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ

แต่แท็กซี่คันดังกล่าวกลับเรียกพรรคพวกมายังโรงพัก พร้อมกับข่มขู่ว่า หากมีปืนจะยิงต่อหน้าตำรวจ แต่ทางตำรวจกลับไม่ลงบันทึกประจำวัน กรณีที่ถูกข่มขู่ พร้อมยังกล่าวว่าตนสะเพร่าเองที่ลืมโทรศัพท์มือถือเอาไว้ หญิงสาวจึงได้ออกมาโพสต์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมนั้น

ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยว ผกก.สภ.กระทุ่มแบน เพื่อขอให้ชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทาง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน ได้ให้ ร.ต.ท.พงษธร เป็นผู้ชี้แจง เนื่องจากเป็นร้อยเวรประจำวันเกิดเหตุ กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุผู้เสียหายทั้ง 2 คน ได้เดินทางมายัง สภ.กระทุ่มแบน เพื่อขอลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยทั้ง 2 ได้ให้ปากคำตรงกันว่า หญิงสาวได้ทะเลาะกับแฟน ก่อนจะตัดสินใจเรียกแท็กซี่บริเวณปากซอยสุคนธวิท 20 จนกระทั่งมีการฉุกกระชากกันระหว่างหญิงสาวและแฟนสาวหล่อ เพื่อจะให้ลงแท็กซี่ ต่อมาเมื่อแท็กซี่เห็นว่าหญิงสาวไม่ใช้บริการจึงตัดสินใจขับรถออกไปรับผู้โดยสารคนอีกคนที่ต้องการไปย่านพระราม 2

ต่อมาผู้โดยสารที่นั่งมาด้วย แจ้งว่ามีโทรศัพท์มือถือหล่นอยู่ภายในรถ พร้อมมีสายเรียกเข้าจึงมอบให้แท็กซี่เป็นผู้รับ ซึ่งจากการพูดคุยคาดว่าฝ่ายหญิงสาวได้พูดจารุนแรง ทำให้แท็กซี่โมโหจึงพูดว่า “ไม่ใช่ขี้ข้า ไม่เอาไปคืน” แต่ฝ่ายหญิงสาวได้พยายามติดต่อมาหลายครั้ง แท็กซี่จึงตัดสินใจให้ผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยขณะนั้นลงรถระหว่างทาง

เพื่อนำโทรศัพท์มือถือไปคืนให้หญิงสาวยังจุดเดิมคือ ซอยสุคนธวิท20 เมื่อถึงจุดนัดพบแฟนสาวหล่อของหญิงสาวได้ออกมารับโทรศัพท์คืน พร้อมกับกล่าวขอบคุณ จากนั้นแท็กซี่ได้ขับรถออกไปรับผู้โดยสารตามปกติ แต่ฝ่ายหญิงสาวกลับไม่ยินยอมพร้อมจะแจ้งข้อหาลักทรัพย์กับคนขับแท็กซี่ จึงไล่ตามแท็กซี่คันดังกล่าวออกไป

กระทั่งแท็กซี่จอดรับผู้โดยสารที่หน้าร้านเซเว่นแห่งหนึ่ง หญิงสาวจึงถ่ายรูปป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ไว้ พร้อมกับขับรถติดตามต่อไป เมื่อแท็กซี่ขับรถที่มีผู้โดยสารอยู่ 4-5 คน ออกไปได้ประมาณ 3 กิโลเมตร จึงรู้สึกว่ามีรถขับติดตามมา จึงได้จอดข้างทาง ก็พบว่าเป็นรถของหญิงสาวขับตามมา เพื่อต้องการให้ไปสถานีตำรวจ

แต่ทางแท็กซี่กลับปฏิเสธ พร้อมพยายามจะขับรถออกไป ฝ่ายหญิงสาวได้วิ่งไปเคาะกระจกด้านซ้ายและพยายามเปิดประตูรถ ทำให้ล้มและได้รับบาดเจ็บ เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกลัวว่าจะมีปัญญาตามมา แท็กซี่จึงให้ผู้โดยสารลงกลางทาง เพื่อไปสถานีตำรวจพร้อมหญิงสาวคนดังกล่าว

ขณะที่อยู่ระหว่างลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่ได้พยายามพูดไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย โดยตักเตือนหญิงสาวว่าไม่ควรขับรถไปติดตามแบบนั้น หากอีกฝ่ายมีปืนหรืออาวุธอาจจะเกิดอันตรายแก่ตนเองได้ ทางแท็กซี่ได้กล่าวว่าตัวเองก็กลัว เนื่องจากไม่รู้เป็นใคร แต่หากเป็นคนอื่นมาติดตามแบบนี้อาจโดนยิงไปแล้ว

ทั้งนี้ ร.ต.ท.พงษธร ในฐานะร้อยเวรประจำวันเกิดเหตุและเป็นผู้สอบปากคำ โดยขอยืนยันว่าร่องรอยและบาดแผลตามร่างกายของหญิงสาวนั้นเกิดจากการหกล้ม รวมถึงแท็กซี่ไม่ได้ข่มขู่หญิงสาว ส่วนทางด้านคดีความนั้นได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้แล้วจำนวน 2 หน้า

ส่วนกรณีที่ระบุว่าทางตำรวจไม่รับแจ้งความนั้น ขอยืนยันว่าหว่างสอบปากคำหญิงสาวไม่ได้แจ้งประสงค์ว่าจะขอแจ้งความแต่อย่างใด แต่กลับแจ้งว่าขอแก้ไขข้อมูลป้ายทะเบียนรถเท่านั้น พร้อมกับยอมรับว่าการที่หญิงสาวได้ออกไปโพสต์แบบนั้น ทำให้ได้รับผลกระทบตามมาเป็นอย่างมาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook