กราบหัวใจ "ทีมแพทย์-นักบินทหาร" เสี่ยงตายขับฮ. ช่วยทารก 3 เดือนป่วยหนักบนดอย

วานนี้ (24 พ.ย.) ที่สถานีสุขศาลาพระราชทาน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านแม่จันทะ หมู่ 8 ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านตะละโค่ง ซึ่งอยู่บนภูเขาสูงชัน ว่ามี เด็กชายสามทิตย์ ทิมา วัย 3 เดือน ป่วยหนักมีอาการหายใจหืดหอบ อาการเป็นตายเท่ากัน เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบเดินทางไปช่วยเหลือโดยใช้รถไถทางการเกษตรเดินทางไกลกว่า 7 ก.ม. โดยใช้เวลาไป-กลับนานหลายชั่วโมง จึงสามารถนำตัวมาถึงที่สถานีสุขศาลาพระราชทานได้ แต่ปรากฏว่าเด็กมีอาการทรุดลงอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่จึงรีบวิทยุด่วนข้ามภูเขา ไปที่ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อขอความช่วยเหลือจากโลกภายนอก ภายหลังรับแจ้งเหตุ ทีมแพทย์ฉุกเฉินชุดสกายดอกเตอร์ของ รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พร้อมหน่วยบินกองทัพบก กองกำลังนเรศวร รีบนำเฮลิคอปเตอร์บินจากตัวเมือง จ.ตาก บินลัดเลาะภูเขาสูงโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง จึงสามารถลงจอดที่สนามจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวกลางยอดดอยได้สำเร็จ

จากนั้นทีมแพทย์สนามพร้อมทีมนักบินทหารบก ไม่รอช้ารีบเข้าไปตรวจเช็คร่างกายเด็กก่อนลำเลียงตัวหนูน้อยขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินแข่งกับเวลาออกจากภูเขาสูงชันท่ามกลางลมแรงในช่วงฤดูหนาวจนสามารถมาลงจอดได้อย่างปลอดภัยที่สนามบินอำเภอแม่สอด ส่งต่อตัวหนูน้อยขึ้นรถพยาบาลนำตัวส่งต่อไปที่ห้องฉุกเฉิน รพ.แม่สอด โดยมีทีมแพทย์ให้การรักษาดูแลอาการอย่างใกล้ชิดล่าสุดหนูน้อยพ้นขีดอันตรายแล้ว

นางนุช ทิมา อายุ 21 ปี มารดาของหนูน้อย กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั้งน้ำตาว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสี่ยงอันตรายมาช่วยเหลือลูกชายจนส่งตัวถึงโรงพยาบาลจนอาการปลอดภัย ซึ่งถ้าจะเดินทางโดยรถไถหรือรถอีแต๋นต้องใช้เวลามากกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งลูกชายคงไม่รอดชีวิต สำหรับการปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้ป่วยผู้ยากไร้ โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก เป็นยานพาหนะชนิดเดียวที่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยในพื้นที่ชายแดน และอยู่ห่างไกลความเจริญ เนื่องจากถ้าหากลำเลียงผู้ป่วยอาการวิกฤตโดยรถไถนาจะใช้เวลานาน และเสี่ยงอันตรายต่อชีวิตผู้ป่วย