ผู้เลี้ยงปลากระชังเศร้า ปลาลอยน้ำตายสูญกว่า 2 ล้าน เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุ
บรรดาผู้เลี้ยงปลากระชังแม่น้ำมูล ต้องนำปลาที่ตายนับแสนตัวออกมาขายในราคากิโลกรัมละ 8 บาท หลังจากเมื่อคืนวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาพบว่าปลานิลที่เลี้ยงไว้ในกระชังเริ่มน็อกน้ำตายทีละตัวสองตัว และเช้าวันนี้ปลาทั้งหมดในกระชังบริเวณริมแม่น้ำมูล ก็เกิดตายเป็นจำนวนมาก
นายพรม พิรุณพันธ์ ชาวบ้านที่เลี้ยงปลากระชัง ในตำบลหนองแค อำเภอราษีไศล บอกว่า ชาวบ้านแถบนี้รวมกลุ่มกันเลี้ยงปลากระชังทั้งหมด 17 กระชัง ใช้พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำมูลเป็นแหล่งรวมกระชังปลา ในวันเกิดเหตุตนได้สังเกตเห็นปลาเริ่มลอยคอยขึ้นมาหายใจเหนือน้ำเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะทุกปีในช่วงเวลานี้จะเริ่มมีปลาช็อกตายเป็นประจำ
จากนั้นปลานิลที่เลี้ยงไว้ในกระชังก็เริ่มตายต่อเนื่องจนหมด ทั้ง 17 กระชัง มีปลาที่เลี้ยงไว้และตายมากกว่า 300,000 ตัว เสียหายมากกว่า 2 ล้านบาท สร้างความตกใจกับตนและกลุ่มผู้เลี้ยงปลาเป็นจำนวนมาก จึงได้เร่งตักปลาที่ตายออกมาด้านนอกก่อนเพราะเกรงว่าอาจเป็นโรคติดต่อ แต่ก็ไม่ทันการณ์เพราะปลาช็อกตายเร็วมาก
อย่างไรก็ตาม นายพรม บอกว่า ในเมื่อทุกอย่างแก้ไขไม่ทัน ก็ได้นำปลาที่ตาย และปลาตัวเล็กที่ยังพอไม่ว่ายน้ำอยู่ได้ออกมาขายทั้งหมด โดยปลาที่ตายขายในราคากิโลกรัมละ 8 บาท ส่วนปลาตัวเล็กที่ยังไม่โตเต็มที่ขายครึ่งราคา ในอัตราที่ขายทั่วไป เพื่อลดความเสี่ยงและพอจะเป็นทุนการเลี้ยงในครั้งต่อไป
ชาวบ้านที่เลี้ยงปลากระชังในอำเภอราษีไศล บอกว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศ เนื่องจากเมื่อ 3 วันก่อนนั้นมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดในตอนกลางวัน และอากาศเย็นในตอนกลางคืน มาถึงวันนี้มีสภาพอากาศหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปลาช็อกตายก็เป็นได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงจังหวัดศรีสะเกษ ได้เดินทางมาเก็บตัวอย่างน้ำและตัวอย่างปลาตาย ไปตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดแล้วคาดว่าจะทราบผลในอีก 1 สัปดาห์