หนุ่มใหญ่ตายปริศนาคากระท่อม ตร.ไม่มุ่งปมฆาตรกรรม คาดล้มหัวฟาดเอง
พบศพหนุ่มใหญ่ตายปริศนาคากระท่อมกลางทุ่งนา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดโรคประจำตัวกำเริบล้มหัวฟาดพื้น พร้อมส่งศพผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด ขณะที่ญาติระบุผู้ตายมีโรคประตัวเบาหวาน ความดัน และโรคตับแข็ง ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
เมื่อช่วงกลางดึกเวลา 21.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชัยสิทธิ์ วรวงศ์ ร้อยเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุภายในกระท่อมกลางทุ่งนา บ้านขมิ้น ม.1 ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังรับแจ้งจึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ หน่วยกู้ภัยเต๊กก่า และแพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์
โดยที่เกิดเหตุอยู่ในกระท่อมทางทิศตะวันตกของบ้านขมิ้น ม.1 ภายในกระท่อมพบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายแพงสี พันวัตร์ อายุ 47 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนพื้นกระดานไม้บนกระท่อมชั้น 2 สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นลายสก็อต จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และจากการตรวจสอบตามร่างกายเบื้องต้นพบบาดแผลแตกที่บริเวณคิ้วด้านซ้าย ลำคออ่อนคล้ายกับกระดูกหัก ตามร่างกายมีร่องรอยแผลถลอกหลายแห่ง
จากการสอบถามนางสมเพศ พันวัตร์ อายุ 46 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพทำนา และขับรถบรรทุกรับจ้างขนข้าวเปลือก โดยหลังจากกลับมาจากขนข้าวแล้ว จะนำรถบรรทุกสิบล้อมาจอดอยู่ที่บริเวณกระท่อมนา และนอนเฝ้าทุกคืน ซึ่งในวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. ตนได้ไปเรียกสามีมากินข้าว แต่กลับพบว่าสามีนอนคว่ำหน้าอยู่บนกระท่อม และมีเลือดไหลออกมาจากศีรษะ จึงเรียกเพื่อนบ้านมาช่วย แต่ไม่ทันการณ์สามีได้เสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ทั้งนี้เดิมสามีนั้นมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน ความดัน และโรคตับแข็ง
ด้าน ร.ต.อ.ชัยสิทธิ์ วรวงศ์ ร้อยเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และจากการลงพื้นที่ร่วมกับชุดสืบสวน ประกอบกับสอบถามญาติและเพื่อนบ้านไม่มีความเชื่อมโยงในการถูกฆาตกรรม เพราะผู้เสียชีวิตไม่มีเรื่องบาดหมางกับใครและไม่มีศัตรูที่ไหนมาก่อน แต่สาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากโรคประตัวกำเริบ เนื่องจากผู้ตายนั้นมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน ความดัน และโรคตับแข็ง
ซึ่งอาจทำให้มีอาการหน้ามืดวูบเป็นลมล้มลงแล้วศีรษะกระแทกพื้นจนเสียชีวิต ส่วนบริเวณลำคอที่มีลักษณะอ่อนนั้น เบื้องต้นแพทย์สงสัยว่าคล้ายกับกระดูกลำคอหัก ประกอบกับเป็นการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติ แม้ทางญาติจะไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็จะได้นำศพส่งผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะนำศพกลับไปให้ญาติบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป