แม่น้ำตาไหล ตามเจอลูกชายหายตัว 3 เดือน เชื่ออาถรรพ์ "กัญชาผสมขี้หู" ทำเสียสติ
ชายเสียสติหนีจากบ้านมาเดินทางไกล จากนนทบุรีถึงระยอง แม่มาเจอบอกโดนอาถรรพ์ เสพกัญชาผสมขี้หูคน แค่ครั้งเดียวทำชีวิตเปลี่ยน
เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (26 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณชายหาดแสงจันทร์ เขตเทศบาลนครระยอง กู้ภัยสว่างพรกุศล จุดปากน้ำ ระยอง รับแจ้งจาก น.ส.นุสา ชาวจังหวัดนนทบุรี ว่าพี่ชายชื่อนายเสมา ได้หายไปจากบ้าน ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้ประมาณ 3 เดือน แล้วมีผู้คนพบเห็นแจ้งว่าอยู่แถวชายทะเล บริเวณจุดใกล้เคียงตำบลปากน้ำ จังหวัดระยอง หากพบเจอช่วยแจ้งกลับมาด้วย จะรีบมารับในทันที
นายวิวัฒน์ ชาวสวน หัวหน้า เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลจุดปากน้ำระยอง ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า รับแจ้งจาก น.ส.นุสา ผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊กของมูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง ว่าพี่ชายหายมาจากบ้านที่จังหวัดนนทบุรี แล้วมีคนพบเจอว่าอยู่บริเวณจุดปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ตนพร้อมเจ้าหน้าที่จึงได้ตระเวนหา ตามชายทะเลจนพบชายคนดังกล่าวตามที่รับแจ้งมา ที่บริเวณตลาดขายอาหารทะเลสด ชุมชนเก้ายอด จึงได้แจ้งกลับไปที่ น.ส.นุสา ว่าพบตัวแล้ว จากนั้นเข้าทำการช่วยเหลือหาข้าว หาปลา หาน้ำให้กินแต่ชายคนดังกล่าวกับปฏิเสธ ไม่ขอรับอะไรทั้งนั้น จะขอนั่งชมทะเลเพียงอย่างเดียว ตนและเจ้าหน้าที่ทุกคน จึงนั่งเฝ้าชายเร่ร่อนคนดังกล่าวกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนที่ญาติที่มารับจากนนทบุรี จะมาถึงจังหวัดระยอง
ต่อมา น.ส.นุสา ได้เดินทางมาถึงจังหวัดระยอง พร้อมกับนางส่งเสริม วัย 76 ปี ผู้เป็นแม่ และลูกสาว และได้รีบเดินไปหาชายเร่ร่อนคนนั้นด้วยความดีใจ แต่ชายเร่ร่อนคนนั้นกลับไร้ความรู้สึก เดินกลับมาขึ้นรถของน้องสาวและแม่ที่มารับแต่โดยดี โดยไม่พูดอะไรออกมาและไม่มีทีท่าของความรู้สึกใดๆ แสดงออกมาให้เห็น
นางส่งเสริม ผู้เป็นแม่ ได้กล่าวกับทีมข่าวว่า ชายเร่ร่อนคนนี้ก็คือลูกชายของตนเอง ชื่อของเขาคือ นายเสมา อายุ 56 ปี ได้หายออกจากบ้าน ที่อำเภอบางกรวยจังหวัดนนทบุรี ได้ประมาณ 3 เดือน การพบเจอลูกชายครั้งนี้ตนทั้งดีใจและยังแปลกใจว่าเขาเดินมาได้ยังไง จนถึงจังหวัดระยอง
นางส่งเสริม ยังกล่าวอีกว่าปกติเขาก็หายจากบ้านในลักษณะนี้แต่ไม่เคยเกิน 2-3 วันเขาก็กลับมาที่บ้าน แต่ครั้งนี้เขาหายมาเกือบ 3 เดือน ทุกคนก็ตามหาแจ้งความคนหายก็แจ้ง ตามหาตามโรงพยาบาลแต่ก็ไร้วี่แวว จนล่าสุด มีคนพบว่าอยู่แถวจังหวัดระยองบริเวณชายหาดปากน้ำ ลูกสาวหรือน้องสาวของนายเสมาจึงได้ประสานมายังกู้ภัยสว่างพรกุศลระยองจนพบเจอ ตามที่ได้ข่าวมาซึ่งตนต้องขอขอบคุณขอบใจกับทีมกู้ภัยทุกท่าน ที่ช่วยเฝ้าไม่ให้ลูกชายของตนหนีไปไหนอีก
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายนางส่งเสริม เผย ด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ปกติเขาก็เป็นชายที่มีสติสมประกอบเหมือนคนอื่นๆ จนเขาได้ไปสูบกัญชากับเพื่อนที่เป็นคณะลิเกแห่งหนึ่งแถวบ้านเมื่อหลายสิบปีก่อน ตั้งแต่เขาอายุได้ 20 ปี จนทำให้การสูบกัญชาในครั้งนั้น เขาถูกแกล้งด้วยการนำขี้หูของคนในกลุ่มคณะลิเกผสมกับกัญชา หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ถูกของถูกอาถรรพ์ ที่เป็นความเชื่อของนักเสพกัญชา ว่าหากโดนใส่ขี้หูผสมเข้าไปจะเป็นบ้า ซึ่งเขาเสพไปเพียงแค่ครั้งเดียวทำให้จิตของเขาหลอน และหวาดกลัวในสิ่งต่างๆ มาจนถึงทุกวันนี้ ชีวิตของลูกชาย ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและสันโดษไม่สุงสิงกับใคร ตนก็รู้สึกเศร้าใจ พาไปหาหมอแต่ก็รักษาไม่หายถือเป็นโรคกรรมที่เขาอาจจะมีมาแต่ปางก่อน จากการสูบกัญชาเพียงครั้งเดียวทำชีวิตเปลี่ยนไปทันที