สอบสวนวุ่น! โจรหนุ่มไร้เสียงให้ปากคำไม่ได้ พนักงานสอบสวนต้องถามให้เขียนตอบ

สอบสวนวุ่น! โจรหนุ่มไร้เสียงให้ปากคำไม่ได้ พนักงานสอบสวนต้องถามให้เขียนตอบ

สอบสวนวุ่น! โจรหนุ่มไร้เสียงให้ปากคำไม่ได้ พนักงานสอบสวนต้องถามให้เขียนตอบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กล้องวงจรปิดของบริษัทขนส่งรายหนึ่ง ย่านถนนพัฒนาการคูขวาง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช บันทึกเหตุการณ์ในขณะที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของพนักงานที่จอดไว้หลบหนีไปได้โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 นาที

โดยภาพนี้เป็นเบาะแสสำคัญที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้สืบสวนจนพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายเอกกวี หรือ “ดรีม ตามาร” อายุ 22 ปี โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ติดตามจับกุมพร้อมของกลางรถจักรยานยนต์จำนวน 5 คัน มาสอบสวน หลังได้ออกตระเวนลักรถจักรยานยนต์ในตัวเมืองนครศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่อง

โดยก่อนหน้านี้นายเอกกวี หรือ “ดรีม ตามาร” ผู้ต้องหาได้โจรกรรมรถจักรยานยนต์มาอย่างต่อเนื่อง จนเจ้าหน้าที่พบหลักฐานสำคัญคือกล้องวงจรปิดตัวนี้ และได้ไล่เส้นทางการหลบหนีจนพบว่าเป็นนายเอกกวีเจ้าของฉายาประจำตัวคือ “ดรีม ตามาร” เป็นหนึ่งในแก๊งตามาร จึงขออนุมัติหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ทางตำรวจได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดที่หน้าบริษัทขณะก่อเหตุและเส้นทางหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายคือนายเอกกวี จึงรวบรวมหลักฐานไปขอศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับข้อหาลักทรัพย์ตอนกลางคืน จนกระทั่งศาลได้อนุมัติหมายจับกุม

ต่อมากำลังตำรวจได้ออกไล่ล่าและสามารถจับกุมตัวนายเอกกวี หรือ “ดรีม ตามาร” ได้ที่บ้านพัก ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช และทำการตรวจค้นได้ของกลางรถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาจำนวน 5 คัน จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางไปยัง สภ.เมือง เพื่อทำการสอบสวน ปรากฏว่านายเอกกวีถูกเจาะคอ เมื่อสอบถามก็ได้พูดออกมาแต่พูดไม่มีเสียง เจ้าหน้าที่จึงทำการสอบปากคำโดยให้เขียนเป็นตัวหนังสือแทน

นายเอกกวีให้การโดยเขียนเป็นตัวหนังสือว่า ขโมยมาแล้วเกือบ 10 คัน ผมอาชีพยากจน ไม่มีงานทำ ถ้ามีงานทำหรือมีคนจ้างทำงานผมพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกงานและทุกคน ผมเคยทำงานแต่เขาว่าพิการ ทำงานไม่คุ้มแต่ผมมีแรงทำเต็มที่ ผมเคยหาวิธีการหาเงินต่างๆ แต่ไม่ค่อยมีหนทาง ผมเคยมีเพื่อนอยู่ 1 คน เพิ่งออกจากคุกมันแนะนำเพราะวันนั้นมันทำกุญแจรถหาย จึงบอกวิธีให้ จึงขโมยมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นายเอกกวียังระบุว่าอีกว่า เมื่อ 4-5 ปีก่อนได้ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และตัวพ่วงข้างทับบริเวณคอทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาก็เข้ารับการรักษาทางแพทย์ได้เจาะบริเวณลำคอ เพื่อรักษาให้ชีวิตอยู่รอด และได้ใส่ท่อเหล็กในลำคอไม่สามารถพูดได้ยอมรับว่าก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ตามสถานที่ต่างๆ มาแล้วจำนวนนับ 10 คัน โดยจะนำไปขายได้คันละ 2,000-10,000 บาท เพื่อหาเงินนำมารักษาตัวเอง

สำหรับการสอบปากคำนายเอกกวี หรือ “ดรีม ตามาร” ผู้ต้องหารายนี้เป็นไปอย่างทุลักทุเล โดยเจ้าหน้าที่จะตั้งคำถามสอบปากคำแล้วให้นายกวี หรือ “ดรีม ตามาร” เขียนสารภาพเป็นตัวอักษร ทำให้การสอบปากคำเป็นไปอย่างล่าช้า ใช้เวลาในการสอบปากคำนานเกือบ 1 ชม. เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพทุกคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook