ชนสยอง! หนุ่มขับกระบะวูบเสยท้ายสิบล้อ ช็อกทำพ่อ-อาดับคาสลด เจ็บอีก 3 ราย

ชนสยอง! หนุ่มขับกระบะวูบเสยท้ายสิบล้อ ช็อกทำพ่อ-อาดับคาสลด เจ็บอีก 3 ราย

ชนสยอง! หนุ่มขับกระบะวูบเสยท้ายสิบล้อ ช็อกทำพ่อ-อาดับคาสลด เจ็บอีก 3 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มก่อสร้างขับกระบะบรรทุกเศษแก้ว เกิดอาการวูบ รถเสียหลักพุ่งอัดท้ายรถสิบล้อเข้าอย่างจัง บริเวณถนนสายเอเชียขาขึ้นนครสวรรค์ จ.อ่างทอง เป็นเหตุให้ พ่อและอาเสียชีวิต บาดเจ็บอีก 3 ราย

(28 พ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. ร.ต.อ.ธีรพัทธ ป้องเรือ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ไชโย จ.อ่างทอง รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนท้ายรถสิบล้อมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บติดภายในหลายราย เหตุเกิดบนถนนสายเอเชียขาขึ้นนครสวรรค์ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 58-59 หมู่ที่ 4 ต.จรเข้ร้อง อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลไชโย และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัย จ.อ่างทอง

ในที่เกิดเหตุ พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ณฉ-7029 กทม ซึ่งบริเวณด้านท้ายบรรทุกสิ่งของสัมภาระมาเต็มคัน ชนอัดก็อบปี้ติดอยู่กับท้ายรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 80-1933 บุรีรัมย์ ในสภาพด้านหน้าพังยับเยินหัวเก๋งยุบมาถึงที่นั่งผู้โดยสาร ภายในรถกระบะพบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่ในรถ 2 ราย เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยเหลือออกมาจากรถ ทราบชื่อคือ นายสุคนธ์ อายุ 31 ปี  คนขับบาดเจ็บเล็กน้อย และบริเวณเบาะนั่งข้างคนขับ พบศพ นายเวที อายุ 40 ปี ถูกอัดก็อบปี้ติดอยู่กับรถ ส่วนบริเวณท้ายรถพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลไชโย นอกจากนั้น ห่างจากตัวรถกระบะประมาณ 100 เมตร พบศพ นายปราโมทย์ ดวงดาว อายุ 60 ปี พ่อของ นายสุคนธ์ คนขับรถกระบะ นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ในสภาพร่างกายแหลก

จากการสอบถาม นายยงยุทธ อายุ 60 ปี คนขับรถบรรทุก กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถบรรทุกเศษแก้วจะมาส่งที่ บจ.ทวีทรัพย์ (จิวแจ๊ะเฮง) ระหว่างที่ตนขับมาตามทางที่เลนซ้ายสุด เพื่อมุ่งหน้าจะไปกลับรถเพื่อไปส่งของที่โรงงาน จู่ๆ รถกระบะคันดังกล่าวขับมาอย่างไรไม่รู้ พุ่งชนอัดติดท้ายรถของตนอย่างแรง

ด้านนายสุคนธ์ กล่าวว่า ตนทำงานที่อยู่ที่บริษัท พรรณกาญจนวิกรณ์ จำกัด รับเหมาเกี่ยวกับการรื้อถอนก่อสร้างศาลาริมถนน ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วย พ่อ อา และคนงานอีก 2 คน เดินทางออกมาจากศรีนครินทร์ มุ่งหน้าจะไปเก็บงานที่ จ.พิษณุโลก โดยมี นายเวที ผู้เป็นอานั่งหน้าคู่มากับตน ส่วนพ่อและคนงานที่เหลือนั่งมาท้ายรถ ระหว่างที่ขับมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งตอนนั้นตนขับมาเลนกลาง ตนยอมรับว่าเกิดอาการวูบ จนทำให้รถเสียหลักไปชนอัดท้ายกับรถบรรทุกดังกล่าว พอได้สติตนตกใจและเสียใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนทำให้พ่อและอาของตนเสียชีวิตแบบนี้

ร.ต.อ.ธีรพัทธ กล่าวว่า จากการตรวจสอบและสอบสวนในที่เกิดเหตุทราบว่า คนขับรถบรรทุกนั้นขับมาเลนซ้ายตามปกติ ส่วนคนขับรถกระบะนั้นขับมาเลนกลาง และเกิดวูบจนทำให้รถเสียหลักไปพุ่งชนอัดท้ายรถบรรทุก จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยศพของผู้เป็นพ่อที่เจอนอนเสียชีวิตอยู่ห่างจากรถนั้น คาดว่าขณะเกิดเหตุด้วยแรงชนอาจทำให้ร่างกระเด็นออกมาแล้วถูกรถอื่นทับร่าง อย่างไรก็ตาม จะได้ทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook