หนุ่มอังกฤษอยู่ไทยเกินวีซ่า 414 วัน ตม.ตะครุบคาบ้านเช่าหรู-เจอยาไอซ์

ตม.เชียงใหม่บุกรวบ หนุ่มอังกฤษ อยู่เกินวีซ่ามา 414 วัน มีพฤติกรรมเช่าบ้านหรูที่เชียงใหม่อยู่ผิดสังเกต พบยาไอซ์รีบโกยทิ้งลงส้วมแต่ไม่หมด

เมื่อคืนวานนี้ (28 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ ได้เข้าจับกุมตัว นายเบนจามิน ซอลสบี อายุ 31 ปี สัญชาติอังกฤษ พร้อมกับของกลางเป็นยาไอซ์ น้ำหนัก 0.95 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพักหรูในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านสันกำแพง

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวได้แจ้งกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ว่า มีชายต่างชาติมาเช่าบ้าน แต่ติดค้างค่าเช่าบ้านมา 2 เดือนแล้ว เมื่อทวงถามผู้เช่าได้บอกให้ยึดเงินประกันค่าเช่าไปแทน พร้อมกับแจ้งว่ามีเพื่อนชาวต่างชาติมาพักอาศัยอยู่ด้วย

ทั้งนี้เจ้าของบ้านสังเกตว่า นายเบนจามิน เพื่อนของผู้เช่าที่มาอาศัยอยู่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าของบ้านเช่าเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงประสานขอให้เจ้าหน้าที่ ตม.เข้าตรวจสอบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปยังบ้านหลังดังกล่าว แต่ นายเบนจามิน ไม่ยอมเปิดประตูและออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังเจ้าของบ้านเช่า เพื่อขออนุญาตพังประตูเข้าไปตรวจสอบ เจ้าของบ้านเช่าได้อนุญาตจึงนำกำลังบุกเข้าไป

แต่ปรากฏว่าชายชาวต่างชาติไหวตัวทันวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อทิ้งสิ่งของบางอย่าง ก่อนจะกดชักโครกทิ้ง อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบอุปกรณ์การเสพยาจำนวนหนึ่ง และเมื่อเข้าไปตรวจสอบในห้องน้ำก็พบคราบยาเสพติดตกอยู่บางส่วน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ

พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการ ตม.4 รักษาราชการแทน ผู้กำกับการ ตม.เชียงใหม่ กล่าวว่า นายเบนจามิน มาพักอาศัยที่บ้านหลังดังกล่าวนานหลายเดือนแล้ว และจากการตรวจสอบยังพบว่า นายเบนจามิน พำนักอยู่ราชอาณาจักรเกินกำหนดถึง 414 วัน ตามในวีซ่าในหนังสือเดินทางระบุไว้

ขณะที่ยาไอซ์ที่ตรวจพบนั้น นายเบนจามิน ให้การว่า ได้ตระเวนไปหาซื้อตามสถานบันเทิงในตัวเมืองเชียงใหม่มาเสพส่วนตัว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติหรือไม่ จะต้องตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนอีกครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด แลมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ขณะที่ตำรวจได้ได้ประสานไปยังสถานกงสุลอังกฤษแล้ว