ตร.หิ้วตัวเลขาฯ นายกเทศมนตรี โกงกองทุนชาวบ้านนับล้าน หนีบวช-หายตัววับ
ตำรวจคุมตัว เลขานายกเทศมนตรีฯ ที่กาฬสินธุ์ หลังโดนออกหมาย ปมโกงเงินกองทุนหมู่บ้าน เจ้าตัวยืนยันไม่เกี่ยวข้อง แค่รับคำสั่งมาเท่านั้น คาดนายกฯ หนีออกประเทศ หลังหนีบวชมา 3 เดือน
จากกรณีชาวบ้านเมย หมู่ที่ 5 และหมูที่ 11 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และตัวแทนคณะกรรมการกองทุนต่างๆ ใน ต.ดงลิง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.กมลาไสย เพื่อดำเนินคดีกับ นายประยูร เห็มวิพัฒน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และเข้าร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม
โดยชาวบ้านและเป็นสมาชิกระบุว่า นายประยูร ได้ยักยอกเงินกู้ของกองทุนต่างๆของหมู่บ้าน และหลอกให้ชาวบ้านกู้เงินจากธนาคารออมสิน สาขาท่าคันโท และธนาคารออมสิน สาขากมลาไสย เพื่อนำไปลงทุน แล้วรับปากว่าจะเป็นผู้ใช้หนี้กับธนาคาร แต่กลับไม่ยอมใช้หนี้และนำเงินหนีหายไป
เป็นเหตุทำให้ชาวบ้านหลายรายถูกธนาคารฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เบื้องต้นรวมมูลค่ากว่า 5.5 ล้านบาท ต่อมาตำรวจ สภ.กมลาไสยได้ขออนุมัติหมายจับนายประยูรในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและข้อหายักยอกทรัพย์อีก 2 หมายจับตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดในวันนี้ (29 พ.ย.) พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สภ.กมลาไสย เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าของคดี หลังจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่ออนุมัติหมายจับ นายประยูร เห็มวิพัฒน์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนไปแล้ว 1 หมาย และขออนุมัติหมายจับนายประยูร เพิ่มเติมอีก 2 หมาย
ในข้อหายักยอกทรัพย์ หลังจากมีคณะกรรมการและประชาชนแจ้งความดำเนินคดีว่านายประยูรได้ยักยอกเงินของกองทุนนันทนาการหมู่บ้าน และเงินกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกครอบครัว ซึ่งล่าสุดทางพนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับในข้อหายักยอกทรัพย์เพิ่มอีก 1 หมาย ที่ชาวบ้านได้แจ้งความยักยอกเงินกองทุนหมู่บ้านรวมทั้งหมดเป็น 4 หมายจับ
พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พนักงานสอบสวนยังขออนุมัติออกหมายจับ นางดอกไม้ อายุ 53 ปี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการฯ นายประยูร ในฐานะประธานกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกครอบครัว ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากการสอบปากคำผู้เสียหายและมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวนางดอกไม้ ที่ได้ดำเนินการเก็บและจ่ายเงินกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกครอบครัว และกองทุนต่างๆ
โดยศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ได้อนุมัติหมายจับที่ จ.413/2561 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งตำรวจสภ.กมลาไสยและชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่กดดันเร่งติดตามตัว กระทั่งสืบทราบว่านางดอกไม้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับได้ไปร่วมงานแต่งงานของหลานใน ต.ดงลิง จึงนำกำลังไปควบคุมตัวและเชิญตัวมาสอบปากคำ
พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รองผกก.(สอบสวน)สภ.กมลาไสยดำเนินการสอบปากคำ โดยนางดอกไม้ พร้อมทนายความได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจและปฏิเสธข้อหา
สำหรับการติดตามตัวนายประยูรนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบเบาะแสว่า ก่อนหน้านี้ได้ไปบวชเป็นพระที่วัดแห่งหนึ่งในเทือกเขาภูพานเป็นเวลา 3 เดือน และได้ทำการลาสิกขาบทไปนานแล้ว จากนั้นมีชาวบ้านเข้ามาแจ้งความก่อนที่จะหายตัวไป ล่าสุดขณะนี้คาดว่าน่าจะหลบหนีไปยังต่างจังหวัดหรือไม่ก็หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว แต่ชุดสืบสวนสภ.กมลาไสยก็ยังลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
นางดอกไม้ ซึ่งเดินทางเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รองผกก.(สอบสวน)สภ.กมลาไสย พร้อมกับนายอภิวัฒน์ สาระภักดี ทนายความ เปิดเผยว่า ตนให้การปฏิเสธข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน แต่ยอมรับว่าได้ไปเก็บเงินและจ่ายเงินให้กับสมาชิกเงินกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกครอบครัวจริง แต่เป็นการทำหน้าที่ตามคำสั่งเจ้านายหรือผู้บังคับบัญชาในฐานะเลขานุการกองทุนฯ เท่านั้น
โดยหลังจากเก็บเงินมาแล้วก็มอบให้นายประยูร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนฯเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ส่วนเงินจะหายไปไหน หรือจ่ายให้กับใครบ้าง และไม่จ่ายใครบ้านนั้นตนไม่ทราบ ทั้งนี้ตนไม่สามารถติดต่อนายประยูรได้ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2561 และหลังมีชาวบ้านเข้ามาแจ้งความตนก็ไม่สามารถติดต่อกับนายประยูรได้อีกเลย