เมียโร่กราบขอขมา พ่อเด็กออทิสติก เหยื่อถูกเพื่อนบ้าน-น้าชายข่มขืน

ภรรยาผู้ต้องหาเข้ากราบขอโทษพ่อเหยื่อแทนสามี เสียใจมากไม่คิดสามีจะทำแบบนี้  พ่อยันเอาเรื่องถึงที่สุด ห่วงสภาพจิตใจและความปลอดภัย เตรียมพาลูกไปอยู่บ้านญาติ

(29 พ.ย.) ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้ควบคุมตัว นายทวิพงษ์ อายุ 37 ปี และ นายสุวิน อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาใช้มีดจี้และกำลังบังคับข่มขืน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ผู้ป่วยออทิสติก ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรอง โดยนายสุวินเป็นน้าชายของผู้เสียหาย และนายทวิพงษ์เป็นเพื่อนบ้าน

พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ฐานพรากพาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

นายสุบิน ถูกแจ้งข้อหาเสพสารเสพติดเพิ่มอีก 1 ข้อหา หลังตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหาย และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรอผลตรวจยืนยันจากแพทย์ เพื่อประกอบสำนวนคดี สรุปส่งอัยการตามกระบวนการขั้นตอน

>> น้าชาย-เพื่อนบ้าน ข่มขืนเด็กออทิสติกวัย 13 ปี ขู่ลั่นพ้นโทษจะฆ่ายกครัว

ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวไปฝากขังแล้ว

ขณะที่ น.ส.นุช อายุ 39 ปี ภรรยาของนายทวิพงษ์ หนึ่งในผู้ต้องหา ได้เดินทางเข้าไปกราบเท้าขอขมาและขอโทษ พ่อของ ด.ญ.เอ แทนสามี ที่ได้กระทำชำเราเด็กหญิง พร้อมขอให้พ่อของผู้เสียหายอโหสิกรรมให้กับสามีด้วย เพราะสามีก็ยอมรับผิดและถูกจับดำเนินคดีเพื่อไปรับผลกรรมกับสิ่งที่กระทำแล้ว

ทางพ่อผู้เสียหายก็พูดด้วยน้ำเสียสั่นเครือด้วยความโกรธและเสียใจว่า ทำไมถึงกล้าทำกับลูกสาวแบบนี้ ก่อนจะบอกกลับไปว่าหักอกคนเป็นพ่อไม่มีใครรับได้ แต่ก็อโหสิกรรมให้เพราะไม่อยากให้มีเวรมีกรรมต่อกันอีก ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

ทางด้าน น.ส.เมย์ พี่สาวของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คนในครอบครัวไม่มีใครรับได้กับการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่ทำกับน้องสาวแบบนี้ โดยเฉพาะนายสุวินที่เป็นน้าแท้ๆ ยังทำได้ลงคอ อยากให้เจ้าหน้าที่ลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ถึงแม้นายสุวินจะยังปฏิเสธ แต่ตนมั่นใจในพยานหลักฐานว่าข่มขืนน้องสาวของตนจริง

ขณะที่พ่อของเด็กหญิงผู้เสียหาย บอกว่า ตอนนี้เป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกสาวมาก ทั้งห่วงเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะผู้ต้องหาขู่ไว้ว่าหากออกมาได้จะมาฆ่าทิ้งยกครัว ตนก็จะให้ลูกสาวไปอาศัยอยู่บ้านญาติ เพราะตนต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด และหากผู้ต้องหาพ้นโทษออกมาจริง ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยดูแลความปลอดภัยด้วย