เสี่ยอสังหาฯ หวาดผวา ภาพชัดมือมืดป่วนปาถุงเลือดใส่บ้าน 3 ครั้งซ้อน

มือมืดบุกป่วนปาเลือดข้ามรั้วใส่บ้านเสี่ยอสังหาริมทรัพย์เมืองหนองคาย 3 ครั้งซ้อน ทำท่าท้าทายใส่กล้องวงจรปิด ตำรวจเผยรู้ตัวแล้วแต่ยังเปิดเผยไม่ได้

(29 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายนิติกรณ์ อายุ 43 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองหนองคาย ระบุว่าถูกคนร้ายนำถุงเลือดมาปาใส่เข้าไปในบ้านถึง 3 ครั้ง นายนิติกรณ์ได้พาชมบริเวณหน้าบ้านที่เป็นจุดติดตั้งกล้องวงจรปิด พบว่ากล้องวงจรปิดถูกทำลาย หน้ากล้องแตก คอหักลง ส่วนบริเวณภายในรั้วบ้าน ช่วงลานจอดรถ และศาลพระพิฆเณศ มีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่ นอกจากนี้ที่หน้ากระโปรงรถยนต์มาสด้า 2 สีแดง ที่จอดอยู่ในบ้านยังถูกเลือดปาใส่ ทำให้สีรถกร่อน

นายนิติกรณ์ เปิดเผยว่า ตนกับครอบครัวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สร้างบ้านจัดสรรโครงการไม่ใหญ่มากในอำเภอเมืองหนองคาย ก่อนหน้านี้เคยโดนมือดีกรีดป้ายโครงการขายบ้าน ตอนแรกก็นึกว่าเป็นเพียงวัยรุ่นมือบอน ก็ไมได้เอาเรื่องอะไร

ส่วนเหตุการณ์ถูกคนร้ายปาถุงเลือดใส่บ้าน เกิดขึ้นต่อเนื่อง 3 ครั้งแล้ว โดยครั้งแรกเมื่อ 3 ตุลาคม 2561 ช่วงกลางดึก คนร้ายได้ปาถุงเลือด 9 ถุง เข้ามาในรั้วบ้าน โดนบริเวณหน้าบ้านเลอะเทอะไปหมด ต่อมาวันที่ 20 ตุลาคม 2561 คนร้ายปาถุงเลือดเข้ามาอีก 13 ถุง ตอนเช้าจึงได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย เพราะคิดว่าถูกผู้ไม่หวังดีคุกคาม และขณะนั้นยังติดตั้งกล้องวงจรปิดไม่เสร็จ

เหตุการณ์ครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานหนองคายได้มาเก็บเลือดไปตรวจสอบ ทราบว่าเป็นเลือดสัตว์ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้สั่งการให้ตำรวจมาติดตั้งตู้แดงไว้ที่หน้าบ้าน ก็จะมีตำรวจมาดูความเรียบร้อยให้ตลอด

กระทั่งครั้งล่าสุดครั้งที่ 3 วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 คนร้ายมาก่อเหตุ ตอนเวลา 03.53 น. ได้ปาถุงเลือดเข้ามาอีก 1 ถุง ตนตื่นขึ้นมาเพื่อจะส่งลูกไปทัศนศึกษา ตอนเวลา 04.00 น. จึงเห็นเข้าพอดี ได้รีบเช็คภาพจากกล้องวงจรปิด ก็พบว่าสามารถจับภาพคนร้ายได้ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นชายสูงประมาณ 170 เซนติเมตร รูปร่างท้วม สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีน้ำตาล กางเกงยีนส์ขายาว สวมผ้าคลุมหน้า แล้วสวมหมวกกันน็อกทับ

คนร้ายเดินเข้ามาหน้าบ้าน เมื่อผ่านกล้องวงจรปิดก็ทำท่าทางท้าทาย ชี้นิ้วและทำท่าทางปาดคอใส่กล้อง ก่อนจะโยนถุงเลือดเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็เดินย้อนกลับมาที่กล้องวงจรปิดที่มีสายเคเบิลห้อยตกอยู่ คนร้ายใช้สายเคเบิ้ลฟาดเข้าไปที่กล้องวงจรปิด 2 ตัว ทำให้พังเสียหายและหลบหนีไป ตนรีบโทรแจ้งตำรวจ ซึ่ง พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้รุดมาดูที่เกิดเหตุทันที

สำหรับสาเหตุตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ไปได้ดี คนร้ายอาจจะใช้ไสยศาสตร์หรือความเชื่อเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะการปาเลือดครั้งแรก 9 ถุง อาจทำให้ธุรกิจตนไม่ก้าวหน้า ครั้งที่ 2 จำนวน 13 ถุง เป็นเลขไม่ดีตามความเชื่อฝรั่ง

ส่วนครั้งที่ 3 ปาถุงเดียว แต่ตั้งใจให้โดนศาลพระพิฆเณศที่ตนเคารพบูชา แต่ก็เคยมีข้อขัดแย้งเรื่องของการแบ่งทรัพย์สิน มรดกเมื่อ 10 ปี ก่อน ซึ่งได้ให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว ตนรู้สึกว่าถูกคุมคาม ข่มขู่ อยากขอให้ตำรวจตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างหวาดผวามาก

ขณะที่ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้วและสั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบหาพยานหลักฐานให้แน่นหนา ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ คาดว่าจะได้ตัวผู้กระทำผิดในเร็วๆ นี้