รวบสาวไทยร่วมแก๊งโรแมนซ์สแกม อ้างเป็นเจ้าชาย หลอกเหยื่อสูญนับ 80 ล้าน

ตำรวจภาค 5 รวบแก๊งโรแมนซ์สแกม พบหัวหน้าขบวนการเป็นต่างชาติชาวเซเนกัล ใช้เฟซบุ๊กอ้างตัวเป็นเจ้าชาย ลวงเหยื่อจนหลงเชื่อโอนเงิน ก่อนสั่งการลูกสมุนชาวไทยตระเวนกดเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 80 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (29 พ.ย.) ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 คุมตัว นางสาวกนกกาญจน์ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในข้อหา” ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” มาสอบปากคำที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 โดยมี พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผู้บังคับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 สอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมแก๊งอีก 3 ราย คือ นายอภิวัฒน์ อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดพะเยา , นางสาวดารุณี อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย และนายอนุศิษฏ์ หรือ ออย อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย โดยทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหา"ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น"พร้อมยึดอุปกรณ์โทรศัพท์ และอื่นๆอีกหลายรายการ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2561 นายโอบิร่า (OBIORA BONIFACE OBEICHINA ) สัญชาติเซเนกัล หัวหน้าแก๊งโรแมนซ์สแกม สร้างเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อปลอมหลายชื่อ บางชื่อใช้โปรไฟล์เป็นภาพราชวงค์จากประเทศแถมแถบยุโรป หรือ แอฟริกา

รวมทั้งใช้ภาพโปรไฟล์เป็นทหารอเมริกัน ทั้งชายและหญิง ก่อนจะแอดเข้ามาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คกับเหยื่อชาวไทย จากนั้นจะพูดคุยกับเหยื่อผ่านช่องทางแชท จนสนิทสนมถึงขั้นตกลงจะคบหา บางรายถูกหลอกว่าจะแต่งงานด้วย

จากนั้นจะใช้กลอุบายหลอกลวงเหยื่อว่าจะโอนทรัพย์สินจากต่างประเทศมาให้ หรือหลอกร่วมลงทุนในธุรกิจ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินไปให้ ก็จะหายหน้าไปไม่ติดต่อกลับมา จนมีผู้เสียหายทั่วประเทศทยอยเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ให้ติดตามจับกุมตัวชายชาวต่างชาติรายนี้ เบื้องต้น มีผู้เสียหายคนไทยถูกหลอกมากกว่า 80 ราย มูลค่าความเสียหาย 50 – 80 ล้านบาท

ต่อมาชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 ได้สืบสวนกระทั่งทราบว่า นางกนกกาญจน์ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการกับนายโอบิร่า มีหน้าที่จ้างเด็กไปกดเงินวันละ 10-50 ครั้ง แต่ละครั้งมียอดกดเงินรวมตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านบาท เมื่อกดเงินที่ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชีออกมาเรียบร้อยแล้ว ก็จะโอนเงินจากประเทศไทยไปให้นายโอบีร่าทันที

ขณะที่ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า แก๊งโรแมนซ์สแกมกลุ่มนี้ เป็นชาวต่างชาติที่ค่อนข้างมีฐานะจะเคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศ ส่วนพฤติกรรมจะใช้โซเชียลมีเดียในการติดต่อกับเหยื่อ โดยเคสที่จับกุมได้

จากการสอบสวน ทราบว่า นางสาวกนกกาญจน์เคยคบหากับชาวต่างชาติสัญชาติเซเนกัลมาก่อน จึงได้รับชักชวนให้มาร่วมแก๊ง โดยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เปิดบัญชีรับโอนเงิน จากนั้นจึงว่าจ้างผู้ต้องหาอีก 3 รายให้เป็นม้ากดเงิน ตระเวนกดเงินตามตู้เอทีเอ็มในหลายจังหวัด โดยจะเลือกตู้ที่ไม่ได้อยู่ในศูนย์กลางค้าหรือย่านชุมชน หลังกดเงินก็จะโอนเงินกลับไปให้นายโอบีร่า

เบื้องต้น ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับกุมในพื้นที่ของตำรวจนครบาลมาแล้ว และล่าสุดถูกจับกุมได้ที่จังหวัดเชียงราย เบื้องต้นมีผู้เสียหายมากกว่า 80 ราย รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 – 80 ล้านบาท

ส่วนที่ผู้ต้องหาสวมรอยอ้างตัวเป็นเจ้าชาย หรือเชื้อพระวงศ์ในต่างประเทศ จะต้องสืบสวนสอบขยายผลก่อน และจะประสานศูนย์ตรวจสอบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง